EXIM BANK ดีดกำไรสุทธิปี 65 พุ่ง 1.5 พันล้าน ปีกระต่ายกระโดดต่อ ปล่อยกู้ทะลุ 1.8 แสนล้าน

EXIM BANK สร้างผลการดำเนินงานปี 65 โตก้าวกระโดด กำไรกว่า 1,500 ล้านบาท ตั้งเป้าปี 66 ปล่อยสินเชื่อไม่ต่ำกว่า 180,000 ล้านบาท กำไรสุทธิไม่ต่ำกว่าปีก่อนหน้า ยึดนโยบาย BCG สร้างระบบนิเวศสีเขียวจากองค์กรสู่โลกในปี 66 เล็งตั้งสำนักงานสาขาในตะวันออกกลาง

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2565 ว่า จากนโยบายและการดำเนินงานภายใต้บทบาท “ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย” และบทบาทใหม่ของ EXIM BANK ที่ “กล้า พัฒนาเพื่อคนไทย” มีบทบาทเชิงรุกในการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินและไม่ใช่การเงินอย่างครบวงจร เพื่อเสริมศักยภาพในการขยายการค้าและการลงทุนทั้งในและต่างประเทศได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ทำให้การดำเนินงานของ EXIM BANK ในปี 2565 เติบโตระดับสองหลัก (Double Digit Growth) ในมิติต่าง ๆ ดังนี้

ยอดคงค้างสินเชื่อ 168,331 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15,558 ล้านบาท หรือ 10.18% จากปีก่อน เติบโตสองหลักต่อเนื่อง 2 ปี และสูงสุดตั้งแต่เปิดดำเนินงานในปี 2537 ทั้งนี้ อัตราการเติบโตดังกล่าวสูงกว่าระบบธนาคารถึง 2 เท่า

วงเงินอนุมัติสินเชื่อใหม่ 94,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 19.21% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็น Double Digit Growth ทั้งในภาพรวม และเพิ่มขึ้นถึง 17.91% ในกลุ่ม SMEs ซึ่งเป็น Double Digit Growth เช่นเดียวกัน

ยอดคงค้างสินเชื่อที่สนับสนุนความยั่งยืน 47,628 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 21.83% จากปีก่อน และคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 30% ของยอดคงค้างสินเชื่อทั้งหมด เติบโตสองหลักต่อเนื่อง 2 ปี

ปริมาณธุรกิจสะสมบริการประกัน 169,338 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 10.34% จากปีก่อน เติบโตสองหลักต่อเนื่อง 2 ปี และสูงสุดตั้งแต่เปิดดำเนินงานเช่นเดียวกับด้านสินเชื่อ

จำนวนลูกค้าทั้งด้านสินเชื่อและรับประกัน 6,102 ราย เพิ่มขึ้นสูงถึง 24.00% จากปีก่อนหน้า เติบโตสองหลักต่อเนื่อง 2 ปี อีกทั้งยังถือเป็นผลงานการเติบโตที่มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้กว่า 2 เท่า ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2565 EXIM BANK ได้ช่วยเหลือทั้งด้านการเงินและไม่ใช่การเงินแก่ผู้ประกอบการกว่า 21,000 ราย วงเงินรวมกว่า 90,000 ล้านบาท

NPL Ratio เพียง 2.90% เป็นอัตราที่ต่ำกว่าเป้าหมายและต่ำกว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ต่อเนื่อง 2 ปี และมีค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss) จำนวน 12,821 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง คิดเป็นอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio) 262.99%

จากความมุ่งมั่นในการดำเนินงานขยายธุรกิจ ส่งผลให้ EXIM BANK มีกำไรจากการดำเนินงาน 2,737 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 14.51% ถือเป็นการเติบโตสองหลักต่อเนื่อง 2 ปี และมีกำไรสุทธิ 1,504 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่มากกว่า 1,500 ล้านบาทต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แม้จะมีการช่วยเหลือลูกค้าด้วยการตรึงดอกเบี้ย Prime Rate มานานกว่า 6 เดือน ต่อเนื่องถึงสิ้นเดือนมกราคม 2566 ก็ตาม

กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า สำหรับปี 2566 เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอลงชัดเจน ธนาคารโลกและ The Economist Intelligence Unit (EIU) หน่วยงานวิเคราะห์เศรษฐกิจชั้นนำของโลก คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกในปีนี้จะขยายตัวต่ำกว่า 2% ต่ำสุดในรอบ 30 ปี เป็นผลจากปัญหาเงินเฟ้อที่คาดว่าจะยังอยู่ในระดับสูงและดอกเบี้ยขาขึ้น ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกไทย ซึ่งคาดว่าจะเติบโตได้สูงสุดเพียง 2% หรือชะลอกว่า 2 เท่าจากปีก่อนหน้า อันเนื่องจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญชะลอตัว โดยเฉพาะสหรัฐฯ และยุโรป ราคาสินค้าส่งออกเริ่มลดลง และเงินบาทผันผวนสูง ท่ามกลางปัจจัยท้าทายและความไม่แน่นอนในหลากหลายมิติ โอกาสจึงเป็นของผู้ที่กล้าเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจไปยังตลาดที่มีศักยภาพและเหมาะกับสินค้าและบริการของธุรกิจ โดย EXIM BANK ในฐานะธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย (Thailand Development Bank) พร้อมทำหน้าที่ Miracle Maker พัฒนาธุรกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในเวทีโลก ด้วยการส่งเสริมการบุกตลาดการค้าการลงทุนที่มีศักยภาพและยกระดับสินค้าและบริการของไทยให้ได้มาตรฐานสากล โดยชูนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยทุกระดับมีความกล้าและความพร้อมที่จะเข้าสู่ Supply Chain การส่งออก การพัฒนาอุตสาหกรรมและธุรกิจใหม่ ๆ ที่มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำและตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่

ในการขับเคลื่อน BCG Economy EXIM BANK ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญอันดับแรกกับการดูแลเอาใจใส่พนักงาน จัดให้มีสวัสดิการยืดหยุ่นรองรับความต้องการของแต่ละบุคคล เพิ่มพูนความรู้โดยเฉพาะ Future Skills อันดับต่อมาคือ การดูแลบ้าน EXIM BANK ให้ดำเนินธุรกิจที่เสริมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่เป้าหมายการเป็นองค์กรที่เป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573 รวมถึงการสนับสนุนธุรกิจ BCG อย่างต่อเนื่องและครบวงจร คู่ขนานกับการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมในมิติของการดูแลคนตัวเล็กในชุมชน โดยเติมความรู้ เติมโอกาส และเติมเงินทุน ให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและมีความรู้ทางการเงินสำหรับเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจที่เชื่อมโยงกับ Supply Chain การส่งออกไปเวทีโลก เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกัน


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment