NOBLE จ่อเปิด 10 โครงการใหม่ มูลค่า 23,300 ล้านบาท

โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ หรือ NOBLE เดินเกมรุกปี 2566 เปิดตัวโครงการใหม่ 10 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 23,300 ล้านบาท มุ่งขยายพอร์ตแนวราบเพิ่ม วางเป้าหมายยอดขายปีนี้ที่ 23,000 ล้านบาท และรายได้รวมที่ 15,000 ล้านบาท

นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท

โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) “NOBLE” เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2566 มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัย (Demand) ที่เติบโตตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว รวมทั้งความต้องการบ้านหลังที่สองของชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดประเทศ โดยในปีนี้บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่จำนวนทั้งสิ้น 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 23,300 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการแนวราบรวมถึงโครงการคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise จำนวน 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 13,400 ล้านบาท และโครงการประเภทแนวสูงจำนวน 1 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 9,900 ล้านบาท โครงการจะกระจายตัวอยู่ทุกทิศของกรุงเทพฯ เช่น แถบกรุงเทพตะวันตก และตะวันออก เป็นต้น รวมถึงทำเลกลางใจกลางเมือง อาทิ ถนนวิทยุ เป็นต้น ทั้งนี้บริษัทฯ มีที่ดินพร้อมสำหรับรองรับการพัฒนาโครงการแล้วทั้งหมด นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนเปิดโครงการที่เน้นเจาะกลุ่ม Ultra Luxury Segment เพิ่มขึ้น จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการโนเบิล เอควา ริเวอร์ฟร้อนท์ ราษฎร์บูรณะ บ้านเดี่ยวติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา โครงการโนเบิล เทอร์รา พระราม 9 – เอกมัย บ้านเดี่ยวใจกลางทำเล CBD พระราม 9 – เอกมัย และโครงการโนเบิล อเวย์ ชะอำ บีชฟร้อนท์ ที่ดินหน้ากว้างติดทะเล ใจกลางตัวเมืองชะอำ

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีสินค้ารองรับความต้องการอยู่อาศัยของผู้บริโภคในทุกสถานะการก่อสร้าง โดยมีสินค้าสร้างเสร็จพร้อมอยู่ (Inventory) ในปี 2566 มูลค่ารวมประมาณ 11,300 ล้านบาท และสินค้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างมูลค่ารวมประมาณ 18,700 ล้านบาท ซึ่งรองรับผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยทั้งแบบอยู่อาศัยเองหรือเพื่อลงทุน ซึ่งจะผลักดันยอดขายและรายได้ในปีนี้ของบริษัทฯ ให้เติบโตสูงขึ้นอีกดัวย

“ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมการซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคชาวจีนในประเทศไทยเปลี่ยนไป หันมานิยมซื้อที่อยู่อาศัยแบบสร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วมากขึ้น เพราะสามารถเห็นโครงการจริงและวิวจริง ซึ่งสามารถชมโครงการได้หลายรูปแบบทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ อีกทั้งยังมีความต้องการห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับการอยู่อาศัยเองทั้งครอบครัวจากเดิมที่นิยมซื้อเพื่อลงทุน โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการเปิดตัวโครงการใหม่ในทำเลพระรามเก้า ซึ่งเป็นย่านนิยมของนักลงทุนต่างชาติติดห้างเซ็นทรัลพระราม 9 คือโครงการ นิว ดิสทริค อาร์ 9 เป็นโครงการคอนโดมิเนียมแนวสูง ปัจจุบันโครงการมียอดขายแล้วกว่า 75% ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจากทั้งลูกค้าชาวไทยและลูกค้าต่างชาติ” นายธงชัยกล่าว

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ประเมินภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ว่าเศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยบวกจากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันของโรคโควิด-19 ประกอบกับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวของไทยในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวได้ดี เกิดการจ้างงานมากขึ้น ส่งผลให้ประชากรภายในประเทศมีกำลังซื้อเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ล่าสุดรัฐบาลจีนก็มีการประกาศปลดล็อคและเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นอีกปัจจัยบวกใหม่ที่จะทำให้ภาคการท่องเที่ยวของไทยคึกคักมากขึ้น และจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยด้วยจากการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยของนักท่องเที่ยวชาวจีน

อย่างไรก็ตาม นายธงชัย ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า จากการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจ ประกอบกับ Backlog ที่มีในมือ รวมถึงโครงการแนวราบที่จะทยอยส่งมอบในปีนี้ ส่งผลให้บริษัทฯ เชื่อว่าจะส่งผลบวกต่อทิศทางการดำเนินงานในปี 2566 อย่างมีนัยสำคัญ โดยจะเห็นการเติบโตของรายได้รวมที่ระดับ 15,000 ล้านบาท


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment