{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
CHOW มั่นใจปี 66 ธุรกิจเติบโตต่อเนื่องจากปี 65 พร้อมรับทุกโอกาสทางธุรกิจ หลังเตรียมความพร้อมอย่างดีทั้งบุคลากร เทคโนโลยี พันธมิตรและฐานเงินที่แข็งแกร่ง
นายปรมัตถ์ จุฬวนิช ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน (CFO) บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในปี 2566 ของบริษัทมีทิศทางเติบโตต่อเนื่องจากปี 2565 หลังจากมีปัจจัยสนับสนุนหลายประการทั้งในธุรกิจเหล็ก และธุรกิจพลังงาน โดยในธุรกิจเหล็กเชื่อว่าปัจจุบันได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและเริ่มเข้าสู่ช่วงทยอยฟื้นตัว โดยปัจจัยหนุนจะมาจากการเริ่มฟื้นตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้างในโครงการขนาดใหญ่ของทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เหล็กที่ใช้ในธุรกิจก่อสร้างฟื้นตัวในทิศทางเดียวกัน โดยธุรกิจเหล็กของ CHOW แบ่งรายได้ออกเป็นในกลุ่มการผลิตเหล็กแท่งทรงยาวตามสัญญารับจ้างผลิตให้กับลูกค้ารายใหญ่ซึ่งคาดว่าในปี 2566 จะสามารถผลิตและส่งมอบได้มากกว่าปี 2565 ในขณะที่ธุรกิจเทรดดิ้งหรือซื้อมาขายไปในส่วนของวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปมาตรฐาน คาดว่าจะขายได้ไม่น้อยกว่า 280,000 ตัน ในปี 2566 จากที่คาดว่าจะทำได้ 150,000 ตันในปี 2565
ส่วนธุรกิจพลังงานว่า ในปี 2566 มีทิศทางเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ต่อเนื่องจากปี 2565 จากปัจจัยสนับสนุนหลายประการ โดยเฉพาะต้นทุนด้านพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น ภาคเอกชนรายใหญ่ให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม และให้ความร่วมมือแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ โดยตั้งเป้าหมายการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ net zero โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการส่งออก และภาครัฐให้การสนับสนุนทั้งมาตรการด้านภาษีในกลุ่มภาคธุรกิจ และโครงการการรับซื้อไฟฟ้าตามมาตรการส่งเสริมการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (Feed-in Tariff: FiT) อัตรารับซื้ออยู่ที่ 2.20 บาทต่อหน่วย เป็นระยะเวลา 10 ปี ในภาคประชาชน ที่นอกจากจะช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าแล้ว ยังเป็นแหล่งรายได้ทางเลือกของครัวเรือนอีกทางหนึ่ง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะเป็นตัวเร่งให้ Solar Rooftop เติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญในปี 2566 โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายจะมีโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาเพิ่มเป็น 150 เมกะวัตต์ จาก 80 เมกะวัตต์ในปี 2565
“CHOW มุ่งเพิ่มขีดความสามารถในการต่อยอดธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย ทั้งการลงทุนในรูปแบบ Private PPAและการให้บริการติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์(EPC)ให้แก่ลูกค้ารายใหญ่และกลุ่มลูกค้า SMEที่ดำเนินธุรกิจในหลากหลายประเภทอุตสาหกรรม โดยใช้ทักษะ ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้ามาใช้เพื่อสร้างรายได้และผลกำไรให้เติบโตมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ตลาดต่างประเทศยังเดินหน้าขยายตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศญี่ปุ่น และออสเตรเลีย”
นายปรมัตถ์ กล่าวอีกว่า เชื่อว่า ปี 2566 จะเป็นอีกปีทองทางธุรกิจของ CHOW จากที่มีฐานทุนแข็งแกร่ง สามารถขยายธุรกิจได้อย่างคล่องตัว ทั้งจากกระแสเงินสดของบริษัทฯ เอง และการสนับสนุนด้านสินเชื่อจากธนาคารชั้นนำ นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรที่มีความสามารถ เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและ supply chain ที่แข็งแกร่งทำให้เข้าถึงแหล่งวัตถุดิบและอุปกรณ์ ในราคาที่แข่งขันในตลาดได้อย่างคล่องตัว ซึ่งความพร้อมเหล่านี้จะทำให้ CHOW สามารถขยายธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยสร้างรายได้และกำไรให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS