{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
บมจ. ยูทิลิตี้ บิสิเนส อัลลายแอนซ์ พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ 7 ธ.ค. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,020 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “UBA”
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ยินดีต้อนรับ บมจ. ยูทิลิตี้ บิสิเนส อัลลายแอนซ์ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มบริการ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “UBA” ในวันที่ 7 ธันวาคม 2565
UBA เป็นบริษัทในกลุ่มของ บมจ. เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR) และ บมจ. สยามอีสต์ โซลูชั่น (SE) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำในการให้บริการด้านการจัดการน้ำแบบครบวงจรของประเทศไทย โดยให้บริการครอบคลุมใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ งานระบบบำบัดน้ำเสีย งานอุโมงค์ระบายน้ำ และงานระบบน้ำประปา ภายใต้ 2 ประเภทบริการหลัก ได้แก่ การให้บริการงานด้านวิศวกรรมและจัดหาอุปกรณ์ และการให้บริการจัดการเดินระบบและบำรุงรักษา ปัจจุบัน UBA เป็น ผู้ให้บริการจัดการน้ำเสียเอกชนรายใหญ่ที่สุดของกรุงเทพมหานคร และเป็นบริษัทเอกชนเพียงรายเดียวที่ได้รับให้ดูแลงานอุโมงค์ระบายน้ำให้กับกรุงเทพมหานคร โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินโครงการให้กับกรุงเทพมหานคร จำนวน 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 4,000 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการดำเนินการอีก 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 2,200 ล้านบาท ในงวด 9 เดือนปี 2565 บริษัทมีรายได้การให้บริการจัดการเดินระบบและบำรุงรักษา : การให้บริการงานด้านวิศวกรรมและจัดหาอุปกรณ์ประมาณ 87 : 13 และเป็นสัดส่วนรายได้จากภาคราชการ : เอกชนประมาณ 84 : 16
UBA มีทุนชำระแล้ว 300 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 430 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 170 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อผู้มีสิทธิจองซื้อหุ้นตามสัดส่วนการถือหุ้นของ NWR และ SE (Pre-emptive Rights) 25.5 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 23 – 25 พฤศจิกายน 2565 เสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 114.5 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัท 19.8 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท 10.2 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 28 – 30 พฤศจิกายน 2565 ในราคาหุ้นละ 1.70 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 289 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,020 ล้านบาท ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ประมาณ 15.73 เท่า คำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2565) ซึ่งเท่ากับ 64.83 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.11 บาท โดยมีบริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัท หลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS