{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
ดร.สัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลกำหนดให้วันที่ 16 - 18 พ.ย. 65 เป็นวันหยุดราชการกรณีพิเศษ เฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 16 – 20 พ.ย. 2565 ส่งผลให้มีวันหยุดติดต่อกัน 5 วัน บขส. จึงได้เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของประชาชน ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้เพียงพอ เพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง โดยในเที่ยวไป (ช่วงวันที่ 15-17 พ.ย.65) คาดการณ์ว่าจะมีผู้ใช้บริการเฉลี่ยวันละ 33,000 คน โดยใช้รถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) เฉลี่ยวันละ 3,000 เที่ยว และในเที่ยวกลับ (ช่วงวันที่ 18-21 พ.ย.65) คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการเฉลี่ยวันละ 34,000 คน ใช้รถโดยสารประมาณวันละ 3,100 เที่ยว อย่างไรก็ดีในช่วงเดือนพฤศจิกายน เป็นฤดูท่องเที่ยวของไทย จึงทำให้มีประชาชนเดินทางเพิ่มมากขึ้น โดยในภาพรวมการเดินทางตั้งแต่วันที่ 1 – 13 พฤศจิกายน 2565 พบว่า ปริมาณผู้โดยสารเดินทางกว่า 931,000 คน หรือประมาณวันละ 50,000 – 56,000 คน ส่วนปริมาณเที่ยววิ่ง (ไป-กลับ) ประมาณ 97,000 เที่ยว หรือประมาณวันละกว่า 5,000 เที่ยว สอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติม โทร Call Center 1490 เรียก บขส. ตลอด 24 ชั่วโมง หรือจองตั๋ว ผ่านช่องทางออนไลน์ อาทิ Application E-Ticket, เว็บไซต์ www.transport.co.th หรือที่ช่องจำหน่ายตั๋ว ณ สถานีเดินรถ บขส. ทั่วประเทศ
บขส. ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการรถร่วมฯ นำรถโดยสารมาสนับสนุนให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้บริการ และมีหนังสือขออนุญาตต่อนายทะเบียนกรมการขนส่งทางบก นำรถโดยสารไม่ประจำทาง มาจัดเสริมในเส้นทางต่างๆ ประมาณ 120 คัน ส่วนในเที่ยวกลับได้ขอความร่วมมือจาก องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และผู้ประกอบการรถแท็กซี่ นำรถโดยสารมารับผู้โดยสาร บริเวณชานชาลาขาเข้า สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) ในส่วนมาตรการความปลอดภัย ได้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการรถร่วมฯ ที่นำรถโดยสารมาวิ่งจะต้องดำเนินการ ตามมาตรการ/วิธีการปฏิบัติสำหรับการเดินรถโดยสาร เพื่อการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด และให้ตรวจสภาพความพร้อมของรถโดยสาร พนักงานขับรถ ให้พร้อมก่อนออกเดินทางทุกครั้ง จำกัดความเร็วไม่เกิน 80-90 กิโลเมตร/ชั่วโมง รวมทั้งนำมาตรการ 4 พร้อม (สถานีพร้อม, พนักงานพร้อม, รถโดยสารพร้อม และการบริการพร้อม) และบขส.ยืนหนึ่งดานความปลอดภัยมาใช้ เพื่อสร้างความปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางให้แก่ผู้โดยสารต่อไป
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS