{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
จีแคปฯ ประกาศผลงาน Q3/65 มีกำไรต่อเนื่อง ทิศทางไตรมาส 4 สดใสเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ตั้งเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อปี 2565-2566 เติบโตปีละ 20%
นายอนุวัตร โกศล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2565 ของ GCAP มีกำไรสุทธิ 2.98 ล้านบาท ผลจากการบริหารคุณภาพลูกหนี้ที่เข้มงวด ต้นทุนทางการเงินและค่าใช้จ่ายในการบริหารที่ลดลง โดยบริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 49.22 ล้านบาท และมีต้นทุนทางการเงินอยู่ที่ 19.66 ล้านบาท ลดลง 9.83 ล้านบาท หรือ 33.33% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2564 โดยควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารอยู่ที่ 24.67 ล้านบาท ลดลง 2.59 ล้านบาท หรือ 9.49% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2564 และควบคุม NPL ได้ไม่เกิน 5% ตามเป้า
“ขณะนี้สถานการณ์ต่างๆ เริ่มดีขึ้นทั้งภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ราคาพืชผลการเกษตรปรับตัวดีขึ้น เทคโนโลยีการเกษตรมีความทันสมัยมากขึ้น โดย GCAP ยังคงเน้นการปล่อยสินเชื่อเครื่องจักรกลการเกษตร และการขยายโปรดักส์ต่างๆ เพิ่มขึ้น ส่งผลบวกต่อผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา เติบโตเป็นที่น่าพอใจ และเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อเนื่องในไตรมาส 4 ของปีนี้ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ” นายอนุวัตร กล่าว
สำหรับแผนธุรกิจของบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อปี 2565-2566 เติบโตปีละ 20% และสร้างฐานรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น จากเดิมบริษัทฯ มีรายได้หลักคือการให้สินเชื่อที่มีดอกเบี้ยรับ แต่ปัจจุบันการแข่งขันในธุรกิจสินเชื่อมีมากขึ้น อัตราดอกเบี้ยเริ่มมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น การแข่งขันรุนแรงขึ้น GCAP ได้วางนโยบายอย่างชัดเจนในการสร้างรายได้ใหม่ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยรับ โดยการขยายทำธุรกิจ Non Lending Business เช่น การสร้างสนามบินที่เกาะเต่า, การสร้างแพลตฟอร์มจับคู่ผู้ประกอบการรถเกี่ยวข้าวกับเกษตรกรที่ต้องการเกี่ยวข้าว และยังไม่ปิดกั้นการศึกษาความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจอื่นๆ เพื่อเสริมรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลให้ GCAP มีรายได้เติบโตชัดเจนอย่างมีนัยสำคัญในปีหน้า
สำหรับภาพการเติบโตในปีหน้า GCAP จะเน้นใน 2 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจ Lending Business คือการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่อเงินกู้ หรือสินเชื่อหมุนเวียน ซึ่งสร้างรายได้จากดอกเบี้ยรับ เราเริ่มจากฐานที่ GCAP มีความชำนาญและเข้าใจความต้องการของกลุ่มเกษตรกรซึ่งเป็นฐานรากของประเทศไทย โดย GCAP มีฐานลูกค้ากว่า 10,000 ราย ในธุรกิจหลักซึ่งเป็นการปล่อยสินเชื่อ ที่สามารถนำมาต่อยอดธุรกิจในการขยายโปรดักส์อื่นๆ เพิ่มเติม เช่น โดรนการเกษตร และกำลังจะมีเครื่องจักรกลการเกษตรอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคต สำหรับในเรื่องการปล่อยสินเชื่อ เรายังคงเน้นการให้สินเชื่อที่เป็นภาคการเกษตร
อีกส่วนหนึ่งเป็น Non Lending Business ซึ่งเป็นธุรกิจที่จะเข้ามาเสริมรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยรับ คือ การสร้างสนามบินที่เกาะเต่า เป็นการสร้างสนามบินขนาดเล็ก ซึ่ง GCAP ร่วมมือกับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมรายใหญ่ในเกาะเต่า ทั้งนี้เกาะเต่าอยู่ใกล้กับเกาะสมุย เกาะพงัน มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปปีละกว่า 6 แสนคน เพื่อดำน้ำดูปะการัง แต่การเดินทางค่อนข้างลำบาก โดยเราเห็นโอกาสเพื่อพัฒนาสนามบินให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะนี้นักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวเกาะเต่าเป็นจำนวนมาก และจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หากเรามีสนามบิน คาดว่าสนามบินจะเริ่มลงมือก่อสร้างต้นปี 2566 และเปิดให้บริการได้ในปลายปี 2566 โดยเป็นสนามบินขนาดเล็ก สามารถรองรับขนาดเครื่องบินได้สูงสุด 14 ที่นั่ง
และอีกหนึ่งธุรกิจในกลุ่ม Non Lending Business คือ การพัฒนาแพลตฟอร์มให้เกษตรกรซึ่งมีไร่นา และผู้ประกอบการที่มีเครื่องจักรกลการเกษตร เช่น รถเกี่ยวนวดข้าว รถเกี่ยวข้าวโพด หรือโดรนการเกษตร ได้มาพบกัน โดย GCAP เป็นตัวกลางในการสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการ และเจ้าของไร่นาก็ได้ใช้บริการเครื่องจักรกลการเกษตรอย่างทั่วถึงในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม นั่นคือ 2 โปรดักส์ใหญ่ที่ GCAP จะทำและมองไปข้างหน้าในการพัฒนา Non Lending Business เพื่อเสริมสร้างรายได้ของ GCAP ต่อไปในอนาคต
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS