{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
กลุ่มผู้บริหารที่มีประสบการณ์คร่ำหวอดในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ร่วมมือกับสถาบันการเงินรายใหญ่เปิดตัว ALLY KEX Private Equity Trust ซึ่งเป็นไพรเวทอิควิตี้ทรัสต์ เพื่อการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย เพื่อช่วยผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการสภาพคล่อง
นายพนล ลีลามานิตย์ หุ้นส่วนผู้จัดการ ALLY KEX Private Equity Trust เปิดเผยว่า กลุ่มผู้บริหารที่มีประสบการณ์คร่ำหวอดในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ร่วมมือกับสถาบันการเงินรายใหญ่เปิดตัว ALLY KEX Private Equity Trust ซึ่งเป็นไพรเวทอิควิตี้ทรัสต์ เพื่อการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย เพื่อช่วยผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการสภาพคล่อง ในการจัดหาเงินทุนระยะสุดท้ายเพื่อพัฒนาโครงการที่มีอยู่แล้ว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างรายได้จากโครงการและประสบความสำเร็จได้รวดเร็วขึ้น อีกทั้งเป็นการเสริมสภาพคล่องที่จำเป็น
โดย ALLY KEX Private Equity Trust มีหุ้นส่วนผู้จัดการ 3 ราย ได้แก่ นายเอเดรียน ลี นายพนล ลีลามานิตย์ และนายธัญธร ณัฐธัมม์ ซึ่งล้วนมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยกองไพรเวทอิควิตี้ทรัสต์ มีคณะกรรมการการลงทุนที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ อาทิ นายกวีพันธ์ เอี่ยมสกุลรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร KE GROUP และนางสุพินท์ มีชูชีพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ALLY KEX Private Equity Trust จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นการเชื่อมโยงแหล่งเงินทุนที่มีอยู่เดิมกับโอกาสการเติบโตที่มีอยู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
นายเอเดรียน ลี หุ้นส่วนผู้จัดการ กล่าวว่า โครงสร้างของไพรเวทอิควิตี้ทรัสต์ (Private Equity Trust) เป็นโครงสร้างทางกฎหมายครั้งแรกในประเทศไทยที่ได้รับอนุญาตให้บุคคลทั่วไปเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์ส่วนบุคคลได้ ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยมีผู้เล่นเกี่ยวกับกองทุนไพรเวทอิควิตี้ (Private Equity Fund) เพียงไม่กี่ราย โดยส่วนใหญ่แฝงอยู่ในรูปการลงทุนด้วยโครงสร้างบริษัทจำกัด ที่กำกับดูแลโดยสัญญาผู้ถือหุ้น, กองทุนไพรเวทอิควิตี้ที่จดทะเบียนในสิงคโปร์ หรือสำนักงานของครอบครัวที่ไม่มีรายงานการลงทุนใด ๆ
นายธัญธร ณัฐธัมม์ หุ้นส่วนผู้จัดการอีกท่านหนึ่ง กล่าวว่า “สภาวะตลาดกำลังเปลี่ยนไป มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามามากขึ้น แต่ละรายมีความเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ในอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น เราเชื่อว่า หน่วยงานกำกับดูแลจะเริ่มกำหนดมาตรฐานใบอนุญาตสำหรับไพรเวทอิควิตี้ (Private Equity) ทั่วไป และไพรเวทอิควิตี้ด้านอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Private Equity) ในอนาคตอันใกล้ ทำให้ทิศทางของอุตสาหกรรมเป็นมาตรฐานและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของผลตอบแทนและค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าสำหรับผู้จัดการ มาตรฐานการควบคุมที่สูงขึ้น และแหล่งข้อมูลและความโปร่งใสที่มีมากขึ้นสำหรับการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่จะลงทุน อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ เราถือว่าเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิก (ไพรเวทอิควิตี้เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์) และได้สร้างสิ่งนี้ขึ้น เพื่อให้เราสามารถชิงความได้เปรียบในฐานะที่เป็นรายแรกที่ลงมือทำก่อน
สำหรับแผนการดำเนินการของกองไพรเวทอิควิตี้ทรัสต์นี้ คาดว่าจะใช้เงินทุนทั้งหมดกับโครงการประมาณ 8 ถึง 10 โครงการ ภายในครึ่งแรกของปี 2566
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS