{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
LEO เผย ไตรมาส 2/65 พุ่งแตะ 99.8 ล้านบาท เติบโตขึ้น 134% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 6 ไตรมาสติดต่อกัน ส่วนครึ่งปีแรกกำไร 189.8 ล้านบาท เติบโตขึ้น 172% มั่นใจครึ่งปีหลังทะยานต่อ บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.20 บาท/หุ้น ประกาศซื้อหุ้นคืนจากตลาดด้วยเงิน 65 ล้านบาท
นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (LEO) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 2/65 เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง มีรายได้รวม 1,335.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 139% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 559.6 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 99.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.1 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 42.7 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ 6 ไตรมาส ติดต่อกัน
ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรก มีรายได้รวม 2,986.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 189% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 1,033.5 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 189.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 172% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 69.7 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ และมีกำไรเกือบเท่ากำไรสุทธิทั้งปีของปี 2564 ที่ทำได้ 198.8 ล้านบาท
"ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/65 และครึ่งปีแรกมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ค่าระวางเรือตู้คอนเทนเนอร์ที่ยังทำ New High อีกทั้งปริมาณความต้องการขนส่งทางเรือและอากาศยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณตู้สินค้าที่ขนส่งระหว่างประเทศทางเรือของบริษัทฯ ในระยะเวลา 6 เดือนของปี 2565 เติบโตสูงขึ้นเป็นจำนวน 31,500 TEUS และมีรายได้เพิ่มขึ้น 189% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีแนวโน้มผลประกอบการดีที่จะดีอย่างโตต่อเนื่องถึงครึ่งหลังของปีนี้
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2565 (มกราคม-มิถุนายน 2565) ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 26 สิงหาคม 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 กันยายน 2565 และทางคณะกรรมการบริษัทยังมีมติให้มีการซื้อหุ้นคืนจากตลาดด้วยเงิน 65 ล้านบาท ในช่วงเวลาตั้งแต่ วันที่ 30 สิงหาคม 2565 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 เนื่องจากประเมินแล้วว่าราคาหุ้นต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริงของบริษัท
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LEO กล่าวอีกว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 นี้ ทางบริษัทจะสามารถรักษาระดับการเติบโตของผลประกอบการให้เป็นไปได้อย่างต่อเนื่องในไตรมาส 3 และ 4 เนื่องจากโดยปกติแล้วการส่งออกและนำเข้าสินค้าของประเทศไทยในช่วงครึ่งปีหลังจะสูงกว่าครึ่งปีแรกเสมอ เพราะเป็นฤดูการส่งออกเพื่อไปขายสินค้าในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ทั่วโลก นอกจากนี้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาการส่งออกในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ก็จะได้รับอานิสงส์จากเทศกาล Global Shopping Sales ของ eCommerce Platform ทั่วโลก เริ่มตั้งแต่เทศกาล Prime Day ของ Amazon ในเดือนกรกฎาคม และตามมาด้วยเทศกาล 9/9, 10/10, 11/11 ของ eCommerce Platform ในประเทศจีน บริษัทฯจึงมีความมั่นใจว่าจะสามารถสร้างรายได้และผลประกอบการในปี 2565 ให้มีการเติบโตได้ถึง 30-35% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปีได้อย่างแน่นอน
รวมไปถึงมีการเปิด Self storage แห่งที่ 2 ที่เยาวราช หลังโควิดคลี่คลาย ทำให้มีการใช้บริการมากขึ้น และลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์แห่งที่ 2 ก็พร้อมเปิดดำเนินการในช่วงครึ่งปีหลัง และบริษัทฯเตรียมรุกขยายธุรกิจให้บริการเช่าคลังสินค้า (Warehouse) และ Self-storage ที่ล่าสุดได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ SENA ไปแล้ว และในปีนี้เตรียมจับมือกับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทข้ามชาติระดับ Regional Player เพิ่มอีก 2-3 ราย เพื่อตั้ง JV ในการพัฒนาธุรกิจ Warehouse, Cold Chain Logistics และ Self Storage รวมถึงหาโอกาสในการปิดดีล M&A เพิ่มเติมภายในปีนี้
นอกจากนี้ Leo ยังอยู่ระหว่างการศึกษาขยายธุรกิจ Non-Logistics อย่างจริงจัง เริ่มด้วยการรุกธุรกิจกัญชา ที่ล่าสุดได้เซ็น MOU กับ วิสาหกิจชุมชนสุขฤทัย เกษตรปลอดภัย จ.อุทัยธานี สนับสนุนโครงการเพาะพันธุ์ปลูกขายต้นกล้ากัญชา ต่อยอดสู่การผลิตช่อดอกเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมการแพทย์ รวมถึงธุรกิจอื่นๆ เพื่อที่จะช่วยผลักดันรายได้และกำไรให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในภายใน 1-2 ปีข้างหน้า
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS