{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค หรือ PIN เดินหน้าสร้างฐานธุรกิจกลุ่มรายได้ประจำและสม่ำเสมอ หวังดันสัดส่วนรายได้แตะ 50% ใน 3 ปี ประกาศเพิ่มทุน ปิ่นทอง ยูทิลิตี้ส์ พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น ปิ่นทอง ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์ยี จำกัด (PURE) อัด 1.6 พันล้าน ติดตั้ง Solar Rooftop บนหลังคาโรงงานในนิคมฯ ปิ่นทอง 1-5 พื้นที่รวม 1.3 ล้าน ตร.ม. และ Solar Farm ลอยน้ำในนิคมฯ เนื้อที่ 300 ไร่ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 80 MW คาดเริ่มรับรู้รายได้ไตรมาส 1/2566
นายพีระ ปัทมวรกุลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ PIN เปิดเผยว่า PIN ที่มุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งแก่การดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำและสม่ำเสมอ (Recurring Income) ได้แก่ กลุ่มธุรกิจการให้บริการเช่าโรงงานและคลังสินค้าในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง และค่าบริการสาธารณูปโภคที่ให้บริการแก่ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม เพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืนแก่การดำเนินงานของบริษัทฯ โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้ของกลุ่มธุรกิจ Recurring Income เป็น 50% ของรายได้รวมภายในปี 2568
ทั้งนี้ บริษัทฯ จึงได้เพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัท ปิ่นทอง ยูทิลิตี้ส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PIN จากเดิมที่มีทุนจดทะเบียน 7 ล้านบาท เป็น 50 ล้านบาท และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ปิ่นทอง ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์ยี จำกัด (PURE) โดยใช้เงินทุนจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจจากการเข้าถือหุ้นใน บริษัท ปิ่นทอง โซลาร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่ ในสัดส่วนร้อยละ 99.97 ของทุนจดทะเบียน 33 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
โดย PIN มีแผนลงทุนติดตั้งระบบ Solar Rooftop บนหลังคาโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 1-5 พื้นที่รวม 1.3 ล้านตารางเมตร และโครงการติดตั้ง Solar Farm ลอยน้ำ ในบ่อน้ำของนิคมฯ เนื้อที่ประมาณ 300 ไร่ รวมกำลังการผลิตไฟฟ้า 80 เมกะวัตต์ ใช้งบลงทุน 1.6 พันล้านบาท เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าแก่ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในไตรมาส 3 ปีนี้ โดยจะแล้วเสร็จเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวตั้งแต่ไตรมาส 1/2566 ส่งผลดีต่อรายได้จากการให้บริการสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ จะเร่งดำเนินโครงการโลจิสติกส์ปาร์คแห่งใหม่ บนพื้นที่ 290 ไร่ ที่จัดสรรพื้นที่สร้างอาคารโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า เป็นเขตปลอดอากร (Free Zone) กว่า 200,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในทำเลที่โดดเด่น ใกล้ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง โดยจะเริ่มพัฒนาโครงการเฟสแรกในไตรมาส 3 ปีนี้ พร้อมเปิดให้ผู้ประกอบการเช่าอาคารโรงงานและคลังสินค้าได้ภายในต้นปี 2566 ซึ่งจะสนับสนุนรายได้ในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS