{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
FTEเชื่อธุรกิจครึ่งปีหลังเติบโตในเกณฑ์ดี เน้นรับงานภาคเอกชน รับรู้รายได้เร็ว ร่วมมือพันธมิตร พัฒนาระบบบริหารจัดการ ผลักดันรายได้ทั้งปีโตตามเป้า
นายทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (FTE) เปิดเผยถึงว่า ในช่วงครึ่งปีบริษัทคาดว่าแนวโน้มการเติบโตอยู่ในเกณฑ์ดี เพราะมุ่งเน้นการรับงานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิง ในส่วนของภาคเอกชนและโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น อาทิ งานติดตั้งระบบดับเพลิงในโรงงานน้ำตาลเกษตรผล (ระยะที่ 2) จังหวัดอุดรธานี งานติดตั้งระบบดับเพลิงโรงงานผลิตกระดาษในเครือปูนซิเมนต์ไทย (SCG) 3 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี อำเภอวังศาลา และอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เป็นต้น ซึ่งงานดังกล่าวจะสามารถรับรู้รายได้ภายใน 6 เดือน ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการมากกว่า 10 แห่ง มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการนำเสนองานอีกกว่า 10 แห่ง มูลค่ารวมประมาณ 300 ล้านบาท ขณะที่งานโครงการภาครัฐยังคงมีความเสี่ยงเรื่องความล่าช้า แต่คาดว่าโครงการต่างๆ จะทยอยเปิดให้ยื่นประมูลได้ช่วงครึ่งปีหลัง
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะเข้าประมูลโครงการภาครัฐ-เอกชนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่มูลค่างาน Backlog ของบริษัท ณ สิ้นเดือนมิ.ย.62 อยู่ที่ประมาณ 450 ล้านบาท แบ่งเป็นงานจัดจำหน่าย 100 ล้านบาท งานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิง 350 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 40% ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 2563 - 2564
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนปรับปรุงต้นทุนการดำเนินงาน เตรียมร่วมมือกับพันธมิตรพัฒนาระบบบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น รวมถึงเพิ่มโอกาสในการรับงานมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการทั้งปีเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับผลผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2562 นั้น กรรมการผู้จัดการ ไฟร์เทรด กล่าวว่า บริษัทมีรายได้รวม 245.62 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 254.79 ล้านบาท จำนวน 9.17 ล้านบาท หรือลดลง 3.60% และมีกำไรสุทธิ 24.26 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 41.84 ล้านบาท จำนวน 17.58 ล้านบาท หรือลดลง 42.02%
ส่วนผลประกอบการครึ่งแรกปี 2562 บริษัทมีรายได้รวม 499.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 478.94 ล้านบาท จำนวน 20.59 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.30% และมีกำไรสุทธิ 54.03 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 58.46 ล้านบาท จำนวน 4.43 ล้านบาท หรือลดลง 7.58%
นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.07 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราจ่ายปันผล 81.02% ของกำไรสุทธิของบริษัท จ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดรวมทั้งสิ้น 42.00 ล้านบาท โดยจะทำการกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล(Record Date) ในวันที่ 22 ส.ค. 62 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 6 ก.ย. 62
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS