กสิ­­­­­กรไทย เปิดตัว K BIZ ดิจิทัล แบงกิ้ง ตอบโจทย์โลกการค้ายุคดิจิทัล

ธนาคารกสิกรไทย พร้อมให้บริการ K BIZ ดิจิทัล แบงกิ้ง แพลตฟอร์ม ตัวช่วยในการบริหารจัดการเงินของธุรกิจขนาดเล็ก-กลางให้คล่องตัวขึ้น ชูจุดเด่น K BIZ ช่วยแก้ไขปัญหาที่เจ้าของธุรกิจพบบ่อยๆ ตั้งเป้ามีลูกค้าใหม่ใช้บริการ K BIZ รวม 2 แสนราย

นายพิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย จึงได้ยกระดับบริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ตสำหรับลูกค้าผู้ประกอบการ (K-Cyber for SME) และ K-Cyber สู่การเป็นดิจิทัล แบงกิ้ง แพลตฟอร์มเต็มรูปแบบในชื่อใหม่ว่า K BIZ เพื่อให้บริการกับลูกค้ารายย่อยที่ทำธุรกิจและลูกค้าผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง รวมกว่า 5 แสนราย

โดยแนวทางการพัฒนาบริการ K BIZ เพื่อตอบโจทย์การจัดการธุรกิจให้คล่องตัวขึ้นในโลกยุคนี้ที่เชื่อมต่อถึงกันตลอดเวลา และช่วยแก้ไขปัญหาที่เจ้าของธุรกิจพบบ่อยๆ ได้แก่ 1) เพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการต่างๆ ทั้งลดต้นทุนการบริหารจัดการเงินสด ลดเวลา ลดข้อจำกัดด้านสถานที่และอุปกรณ์ในการใช้งาน (Multi-Device) 2) พัฒนาระบบที่สามารถเพิ่มผู้ใช้งานได้หลายคน เพื่อช่วยทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆได้ เพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน (Multi-User) 3) รองรับการทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ โดยมีบริการโอนเงินต่างประเทศเพิ่มความสะดวกในกับลูกค้าที่มีการทำธุรกิจกับคู่ค้าต่างประเทศ 4) เพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยในการทำธุรกรรมด้วยระบบยืนยันตัวตนที่ได้มาตรฐานสากล ทั้งนี้ธนาคาร ตั้งเป้าจะมีลูกค้าใหม่ใช้บริการ K BIZ เพิ่มขึ้น 2 แสนราย

K BIZ ดิจิทัล แบงกิ้ง แพลตฟอร์ม ช่วยจัดการเงิน ให้ธุรกิจคล่องตัว สมัครง่าย ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี มีการใช้งานหลัก 3 ส่วน ได้แก่

จัดการธุรกรรมการเงินได้ทั้งธุรกิจขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ลดต้นทุนการทำธุรกรรมการเงินได้มากกว่าการทำธุรกรรมด้วยเงินสด ไม่ต้องเดินทางไปสาขาธนาคาร

วงเงินโอนไปยังบัญชีบุคคลอื่นต่อวันสูงสุด 10 ล้านบาท โอนเข้าบัญชีตนเอง 30 ล้านบาทต่อวัน

บริการโอนเงินเป็นกลุ่ม สามารถสร้างรายการได้สูงสุดครั้งละ 10 รายการ ลดความยุ่งยาก และเพิ่มความรวดเร็วในการทำธุรกรรมในคำสั่งเดียว

บริการโอนเงินต่างประเทศ สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย โอนได้ 12 สกุลเงิน 30 ประเทศ

จัดการธุรกิจได้ทุกที่ด้วยความคล่องตัว ตั้งระบบบริหารจัดการได้หลายคน นำข้อมูลมาใช้วิเคราะห์ วางแผนธุรกิจ การเงินได้ง่ายๆ

รองรับการใช้งานบนหลายอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์ แท๊บเล็ต และสมาร์ทโฟน

เพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการ และรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต โดยสามารถกำหนดผู้ใช้งาน K BIZ ได้หลายคน (Multi-user) หลายหน้าที่ ได้แก่ ผู้ทำรายการ (Maker), ผู้อนุมัติรายการ (Authorizer), ผู้ทำรายการ (Maker), และผู้ดูแลระบบ (Administrator)

สามารถนำรายการเดินบัญชี ใช้งานง่าย ออกมาใช้วิเคราะห์ต่อได้ทันทีทั้งรูปแบบ PDF และ CSV

เพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยทุกการทำรายการ

การยืนยันหรืออนุมัติรายการบน K BIZ สำหรับการทำธุรกรรมวงเงินไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อวัน จะใช้การยืนยันตัวตนผ่าน SMS-OTP และหากเป็นธุรกรรมที่วงเงินมากกว่า 2 ล้านบาทต่อวัน จะใช้ K PLUS เพื่ออนุมัติรายการ

นายพิพัฒน์พงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารกสิกรไทยจะพัฒนาบริการและเครื่องมือการจัดการทางการเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าได้มีตัวช่วยการดำเนินธุรกิจที่ตอบสนองการทำธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างทันท่วงที สำหรับลูกค้าทั่วไปและลูกค้าผู้ประกอบธุรกิจที่เคยใช้บริการรูปแบบเดิมของธนาคารและต้องการเปลี่ยนมาใช้ K BIZ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ผู้ดูแลความสัมพันธ์ และผู้ประกอบการธุรกิจที่สนใจสมัครใช้งาน K BIZ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ K-Contact Center 02-8888888 ต่อ 03 (บุคคลธรรมดา) หรือ 02-8888822 ต่อ 120 (นิติบุคคล) หรือดูรายละเอียดที่เว็บไซต์ธนาคาร https://kbank.co/3xgH068


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment