{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) เจรจาร่วมมือกับพันธมิตร 2 ราย ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในสปป.ลาว ขนาด 500-600 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการ 2.5-3 หมื่นล้านบาท ไตรมาส 2/65 จะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนาม เตรียมปิดดีลซื้อกิจการ "วินด์ฟาร์ม" ในเวียดนามอีก 2-3 โครงการ
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) เปิดเผยว่า บริษัทฯยังคงเดินหน้ารุกขยายการลงทุนในกลุ่มภูมิภาคอาเซียน โดยล่าสุดเตรียมเจรจากับพันธมิตร 2 ราย เพื่อร่วมลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ขนาด กำลังผลิต 500-600 เมกะวัตต์ ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนรวม 2.5-3 หมื่นล้านบาท โดยโครงการวินด์ฟาร์มใน สปป.ลาว ซึ่งเป็นโครงการที่สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับน่าสนใจ
สำหรับความคืบหน้าของการก่อสร้างโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม กำลังการผลิตรวม 160 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนาม ได้เสร็จสมบูรณ์เกือบ ทุกโครงการแล้ว โดยโครงการในจังหวัด Gia Lai รวม 100 เมกะวัตต์ สามารถจ่ายไฟฟ้าได้ทันที เมื่อมีการเชื่อมกับโครงข่ายสายส่งไฟฟ้า ของการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ซึ่งขณะนี้ รอการอนุมัติการเชื่อมต่อจากทาง EVN อยู่ ส่วนโครงการในจังหวัด Huong Linh รวม 60 เมกะวัตต์ ก็มีความคืบหน้าไปมากกว่า 90% พร้อมที่จะทำการเชื่อมต่อเพื่อจ่ายไฟฟ้าได้ภายในเดือนมิถุนายน 2565 และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส2/2565ได้ทันที
นอกจากนี้ ประเทศเวียดนาม ยังคงเป็นเป้าหมายหลักในการขยายการลงทุน เนื่องจากที่ผ่านมา เศรษฐกิจของเวียดนาม มีการขยายตัวสูงที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนด้านอุตสาหกรรม ซึ่งทำให้มีความต้องการพลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ซึ่ง EP พร้อมด้วยพันธมิตร ก็จะเข้าไปลงทุนในโครงการที่ได้มีการเจรจามาอย่างต่อเนื่อง คือ โรงไฟฟ้าพลังงาน LNG ขนาด 1,500 เมกะวัตต์ ตามที่ปรากฏอยู่ในแผน PDP 8 ซึ่งคาดว่าจะประกาศใช้ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ และยังมีการพิจารณาลงทุนในโครงการไฟฟ้าพลังงานลม ที่ได้จ่ายไฟแล้ว อีก 2-3 โครงการ ขนาดรวมประมาณ 200 เมกะวัตต์ อีกด้วย โดยจะเป็นการเข้าซื้อกิจการ
ขณะที่ในประเทศไทย มีนโยบายที่ชัดเจนในการสนับสนุนรถ EV ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อนโยบายพลังงานของประเทศโดยอาจจะมีการรับซื้อพลังงานมากขึ้น ดังนั้นในระหว่างนี้ บริษัทฯจึงมีแผนขยายการติดตั้ง Solar Roof (Private PPA) โดยคาดว่าจะเพิ่มจากการติดตั้งและบริหาร Private PPA เพิ่มจาก 16 เมกะวัตต์ในปัจจุบันเป็น 30 เมกะวัตต์ภายในสิ้นปี2565
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS