PACO โชว์ Q1/65 กำไร 16.9 ล้านบาท ขยายธุรกิจ REM & OEM เต็มสูบ

เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ (PACO ) ผลประกอบการไตรมาส 1/2565 มีรายได้รวม 181 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 16.9 ล้านบาท ลุยขยายธุรกิจ OEM & REM คาดตลาดรถยนต์ EV บูม

นายสมชาย เลิศขจรกิตติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PACO เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส1/2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 181 ล้านบาท ลดลง 0.6 % จากรายได้รวม 182 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2564 มีกำไรขั้นต้น 30.8 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 16.9 ล้านบาท ลดลง 41% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 28.7 ล้านบาทในไตรมาส 1/2564 ซึ่งรายได้รวมของ PACO ปรับลดลงสาเหตุมาจากการระบาดสถานการณ์โควิด 19 ซึ่งในปี้ บริษัทคาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ตามอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยที่กลับมาขยายตัวอีกครั้ง ตามสภาวะเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะฟื้นตัวและกลับสู่การเติบโตอีกครั้ง

PACO มีอัตรากำไรสุทธิ (Net Margin) ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 1 ปีนี้ เรามีอัตรากำไรสุทธิที่ 9.3% สูงกว่าอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยของผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ OEM ที่ประมาณ 5-10% เนื่องจาก PACO เน้นตลาดอะไหล่ทดแทน (Aftermarket Parts) จึงสามารถกำหนดราคาขายสินค้าได้เอง และมีการแข่งขันด้านราคาที่น้อยกว่า โดยอัตรากำไรสุทธิของบริษัทฯ ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 12% ในปีก่อน”

สำหรับแผนการขยายธุรกิจในปีนี้ PACO มุ่งมั่นที่จะขยายทั้งตลาดส่งออก และตลาดในประเทศซึ่งจะใช้กลยุทธ์การสร้างเครือข่ายร้านอะไหล่แอร์รถยนต์ครบวงจร ภายใต้แบรนด์ PACO Auto Hub (พาโก้ ออโต้ ฮับ) เพื่อสร้างแบรนด์ PACO ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ในประเทศ เพื่อเพิ่มยอดขายในประเทศและเสริมความแข็งแกร่งด้านช่องทางการจำหน่ายสินค้า และสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ แบรนด์ของคนไทย โดยเราตั้งเป้าหมายที่ จะมีร้าน PACO Auto Hub จำนวน 300 สาขาภายในปีนี้ จากปัจจุบันได้เปิดไปแล้วกว่า 150 สาขา ทั่วประเทศ โดยภายในร้านจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ คอยล์ร้อนและคอยล์เย็นแบรนด์ PACO เป็นหลัก และมีสินค้าอื่นๆ อาทิเช่น ท่อน้ำยาแอร์ น้ำยาแอร์ เพื่อเป็นการให้บริการลูกค้าแบบครบวงจรในที่เดียว (One-Stop Solutin)

นอกจากนี้ PACO เตรียมขยายตลาดส่งออก ซึ่งปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้ดี ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกซึ่งนำโดย สหรัฐอเมริกา และ จีน จากความสามารถในการควบคุมโรคโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคกลับมา อีกทั้ง ปัญหาเรื่องการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ได้คลี่คลายลงอย่างมาก ทำให้บริษัทฯ สามารถส่งออกเพิ่มขึ้นได้ นอกจากนี้ PACO คาดว่าจะได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง ในครึ่งปีหลังอีกด้วย โดยบริษัทฯ มุ่งเน้น ตลาดตะวันออกกลาง สหรัฐอเมริกา และอาเซียน โดยในครึ่งปีหลัง PACO เตรียมจะจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ใกล้เคียงกับประเทศไทย เพื่อเจาะตลาด และเพิ่มยอดขายในมาเลเซียอย่างมีประสิทธิภาพ


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment