{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
สมอ. ประกาศควบคุมหลอดไฟแอลอีดี และยางหล่อดอกซ้ำสำหรับรถบรรทุก ต้องได้มาตรฐาน มอก. มีผลบังคับใช้ 29 มีนาคม 2565 และ 5 พฤษภาคม 2565 เตือน ก่อนทำ นำเข้า ต้องขออนุญาตจาก สมอ.
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคอุตสาหกรรม และการคุ้มครองประชาชนให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ทั้งที่ผลิตในประเทศและนำเข้า โดยกำหนดเป็นนโยบายสำคัญและได้มอบหมายให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. ดำเนินการ เนื่องจากเป็นหน่วยงานหลักที่ดำเนินงานด้านการมาตรฐานของประเทศ
ด้าน นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กล่าวว่า สมอ. ประกาศควบคุมสินค้าที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนแล้วจำนวน 127 รายการ รวมถึงสินค้า 3 รายการ ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้เร็วๆ นี้ ได้แก่ หลอดแอลอีดีเปลี่ยนทดแทนขั้วคู่ มอก.2779-2562 และหลอดแอลอีดีมีบัลลาสต์ในตัว มอก.2780-2562 จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 มีนาคม 2565 และยางหล่อดอกซ้ำสำหรับรถบรรทุก รถบัส และรถพ่วง มอก.2979-2562 จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 นี้ด้วย
ซึ่งผู้ประกอบการทุกรายที่จะทำ หรือนำเข้าสินค้าดังกล่าว ต้องได้รับอนุญาตจาก สมอ. ก่อน เพื่อดำเนินการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัย โดยสินค้าทุกชิ้นจะต้องแสดงเครื่องหมายมาตรฐานบังคับ คู่กับ QR code เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลผู้รับใบอนุญาตได้ หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมาย ผู้ทำหรือนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จำหน่ายสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และแสดงเครื่องหมายมาตรฐานโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยมาตรฐานหลอดแอลอีดีเปลี่ยนทดแทนขั้วคู่ ซึ่งโดยทั่วไปอาจเรียกว่า หลอดแอลอีดีชนิด T5, T8 หรือ หลอดแอลอีดีแบบยาว จะควบคุมเรื่องความปลอดภัยในขณะใช้งาน เพื่อป้องกันไฟรั่ว ไฟดูด ควบคุมอุณหภูมิของขั้วหลอดในภาวะไฟฟ้าวิกฤติ และการติดไฟ เป็นต้น ขณะนี้มีผู้ยื่นขออนุญาตแล้วจำนวน 3 ราย เป็นผู้ทำ 1 ราย ผู้นำเข้า 2 ราย
ส่วนมาตรฐานหลอดแอลอีดีมีบัลลาสต์ในตัว เช่น หลอดแอลอีดีแบบขั้วเกลียว จะควบคุมเรื่องความปลอดภัยในขณะใช้งาน เพื่อป้องกันไฟรั่ว ไฟดูด ความแข็งแรงของเกลียวหมุน การทนความร้อนได้ ซึ่งมีผู้ยื่นขออนุญาตแล้วจำนวน 7 ราย เป็นผู้ทำ 1 ราย และผู้นำเข้า 6 ราย
สำหรับมาตรฐานยางหล่อดอกซ้ำ จะมีผลบังคับใช้วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 เนื่องจากมีการนำยางล้อแบบสูบลมของรถบรรทุก รถบัส และรถพ่วง นำกลับมาหล่อดอกยางใหม่แล้ววางขายในท้องตลาด ซึ่งมีราคาถูกกว่ายางใหม่ค่อนข้างมาก จึงอาจเกิดความไม่ปลอดภัยต่อประชาชนในการนำไปใช้งาน
แต่หลังจากที่ สมอ. ประกาศเป็นสินค้าควบคุมแล้ว ยางหล่อดอกซ้ำเหล่านี้ต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยตามมาตรฐาน มอก. ก่อนนำมาวางจำหน่าย โดยจะต้องผ่านการทดสอบความทนทานของยางล้อ ทดสอบสมรรถนะในการรับน้ำหนัก และความสามารถในการทำความเร็วได้ตามความเร็วสูงสุดที่ระบุในแต่ละประเภท ซึ่งมาตรฐานฉบับนี้สอดคล้องกับข้อกำหนดทางเทคนิคยานยนต์ของสหประชาชาติ (UN Regulation No. 109) ครอบคลุมเฉพาะยางล้อสูบลมหล่อดอกซ้ำที่ถูกออกแบบสำหรับรถยนต์ 5 ประเภท ได้แก่
1. รถยนต์สำหรับขนส่งผู้โดยสาร มีที่นั่งมากกว่า 8 ที่นั่ง ไม่รวมคนขับ และมีน้ำหนักไม่เกิน 5 ตัน
2. รถยนต์สำหรับขนส่งผู้โดยสาร มีที่นั่งมากกว่า 8 ที่นั่ง ไม่รวมคนขับ และมีน้ำหนักมากกว่า 5 ตัน
3. รถยนต์สี่ล้อขึ้นไปและใช้สำหรับขนส่งสินค้า
4. รถพ่วงที่มีน้ำหนักมากกว่า 3.5 ตัน แต่ไม่เกิน 10 ตัน
5. รถพ่วงที่มีน้ำหนักมากกว่า 10 ตัน
ขณะนี้มีผู้ทำในประเทศยื่นขออนุญาตแล้วจำนวน 20 ราย สมอ. จึงขอแจ้งไปยังผู้ประกอบการที่ทำสินค้าดังกล่าว ให้เตรียมตัวดำเนินการตามมาตรฐาน ทั้งที่ทำในประเทศ และนำเข้า เพราะท่านจะต้องขออนุญาตจาก สมอ. ก่อนทำหรือนำเข้า พร้อมทั้งให้เตรียมตัวยื่นขอใบอนุญาตก่อนวันที่มาตรฐานจะมีผลบังคับใช้ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถติดต่อได้ที่ สมอ. หรือจะยื่นขอ มอก. ออนไลน์ผ่านระบบ E-license ได้ที่ https://itisi.go.th/e-license/ ตลอด 24 ชั่วโมง
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS