MICRO ตั้ง บจก.ไมโครพลัสลิสซิ่ง ดึง “ทวีพล เจริญกิตติคุณไพศาล” นั่งแท่นหัวเรือใหญ่

ไมโครลิสซิ่ง (MICRO) จัดตั้งบริษัทร่วมทุน “ ไมโครพลัสลิสซิ่ง” ลุยเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ได้ “ทวีพล เจริญกิตติคุณไพศาล” เป็นผู้ถือหุ้นพร้อมตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ร่วมผนึกกำลังลุยสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่

นายวิศาลท์ บูรณสันติกูล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไมโครลิสซิ่ง เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติจัดตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อประกอบธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ชื่อ บริษัท ไมโครพลัสลิสซิ่ง จำกัด ขึ้นมาเพื่อประกอบธุรกิจดังกล่าวคาดว่าจะสามารถจัดตั้งบริษัทร่วมทุนดังกล่าวได้ภายในเดือนนี้ โดยมีเป้าหมายให้เป็นบริษัทหนึ่งซึ่งเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญ ที่จะช่วยสร้างรายได้และสามารถเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ในกลุ่มรถจักรยานยนต์ รวมถึงเป็นการผสานความสามารถระหว่างองค์กรสร้างความเชื่อมโยงไปยังบริษัทย่อยในเครือทั้ง บจก.ไมโครอินชัวร์ โบรกเกอร์ ซึ่งดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยและนายหน้าประกันชีวิต และบจก.ไมโคร ฟิน ซึ่งดำเนินธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล โดยเป็นกลุ่มบริษัทที่มีความสัมพันธ์ส่งเสริมกันในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพื่อส่งมอบคุณค่าให้กับผู้ใช้บริการ หรือลูกค้าได้อย่างครบวงจร และก่อเกิดระบบนิเวศธุรกิจที่สมบูรณ์ตามแผนกลยุทธ์หลักของบริษัท

ทั้งนี้ในการต่อยอดไปยังธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ นับเป็นก้าวของการเริ่มต้นที่บริษัทจะขยายฐานของลูกค้าเพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากบริษัทเองเป็นผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อมาอย่างยาวนานกว่า 27 ปี ทั้งในด้านระบบงาน ความพร้อมของบุคลากรด้านต่างๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นเฉพาะกลุ่มรถบรรทุกมือสอง ประกอบกับการได้ผู้ร่วมทุน และกรรมการผู้จัดการอย่างนายทวีพล กิตติคุณไพศาล ที่ถือได้ว่าเป็นระดับปรมาจารย์คนหนึ่งในวงการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์มาไม่น้อยกว่า 27 ปี เช่นเดียวกัน โดยประสบการณ์ที่ผ่านมาของนายทวีพลเคยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบจก.เวิลด์ลีส ผู้นำสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์อันดับต้นๆ ของประเทศ ตั้งแต่ปี 2537 การได้พันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดที่มีการแข่งขันสูงและกลุ่มลูกค้าเป็นรายย่อยที่มีความเฉพาะในการดำเนินธุรกิจสินเชื่อ ช่วยให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วและลดความเสี่ยงในด้านต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ทำให้มองได้ว่าบริษัท ไมโครพลัสลิสซิ่ง จำกัด เป็นหนึ่งในเรือธงของเครือบริษัทที่จะสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ในระยะยาว และตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปี จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย