KISS ไฟเขียวจ่ายเงินปันผล 0.10 บาทต่อหุ้น

โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ KISS โชว์ปี 64 พยุงรายได้และกำไรดี จ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง 0.10 บาทต่อหุ้น เผยแผนโรดแมปปี 2565 เร่งเครื่องชูนวัตกรรมความงามและสุขภาพเต็มกำลัง ต่อยอดสร้างการเติบโต

นางวรวรรณ ไชยกำเนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KISS เปิดเผยว่า ในปี 2564 ถือเป็นปีแห่งความท้าทายในเชิงการบริหารจัดการเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามมีการชะลอตัว ทั้งนี้ KISS ได้มีการปรับแผนรับมือกับสภาวการณ์นี้เพื่อรักษาผลการดำเนินงาน โดยสามารถสร้างรายได้จากการขายสินค้าและบริการรวมอยู่ที่ 772 ล้านบาท ลดลง 20 % โดยยังคงมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 119 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 15.4% ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นผลจากการดำเนินงานที่มุ่งให้ความสำคัญกับการรักษาเสถียรภาพในการดำเนินงานของบริษัทฯ เป็นสำคัญ เพื่อฝ่าวิกฤติความท้าทายจากผลกระทบโรคระบาดที่มีต่ออุตสาหกรรมและเศรษฐกิจโดยรวมที่ยากจะเลี่ยงได้

โดยคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 จึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผล ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาทต่อหุ้น เป็นเงินจำนวน 60 ล้านบาท โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 หลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2565 อนุมัติในวันที่ 25 เมษายน 2565

สำหรับแผนกลยุทธ์การเติบโตในปี 2565 บริษัทฯ มีแผนการตลาดและกระจายสินค้าในการผลักดันแบรนด์ Rojukiss ที่เป็นแบรนด์หลักอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการทำการตลาดเพื่อให้เป็นแบรนด์และสินค้านวัตกรรมของแบรนด์ที่ได้รับการพูดถึงและอยู่ในกระแสอย่างเต็มรูปแบบโดยเฉพาะในช่องทางดิจิตอล โดยเน้นการเติบโตในช่องทางร้านค้าเพื่อสุขภาพและความงาม และรุกช่องทางออนไลน์ทั้ง e-Com Marketplace และ Social Commerce ต่อเนื่องควบคู่กัน นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนงานเชิงรุกในการเติบโตต่อเนื่องในตลาดต่างประเทศอย่างเต็มสูบ โดยเน้นการสร้างแบรนด์และเพิ่มยอดขายในประเทศอินโดนีเซียและเวียดนาม ทั้งในช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ ทั้งนี้ ในปีนี้บริษัทฯ ยังได้เข้าลงทุนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บริษัท ไฮไบโอไซ จำกัด เพื่อต่อยอดการขยายธุรกิจรุกตลาดสุขภาพอย่างเต็มตัว ผ่านการพัฒนานวัตกรรมสเปรย์พ่นจมูกที่มีเทคโนโลยีที่ออกแบบมาจำเพาะเพื่อป้องกันและยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งได้รับการพัฒนา คิดค้นและวิจัยโดยทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญคนไทย บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่าจะเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการเรื่องสุขภาพที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ สามารถต่อยอดขยายผลการเติบโตให้กับบริษัทฯ ได้อย่างเข้มแข็ง โดยคาดว่าจะวางจำหน่ายได้ในไตรมาส 3 ปี 2565 นี้


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment