PTG วาดเป้าปี 65 รายได้โต15%

พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 65 เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15% ลุยเพิ่มปั๊มน้ำมันยอดขายเพิ่มสัดส่วนตลาดเกิน 20% รุกขยายธุรกิจ Non-oil ขยับสัดส่วนสูง 20% ของรายได้รวม เดินหน้าดันบริษัทลูกเข้าตลาดหุ้นตามแผน

นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทกำหนดเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน โดยประเมินว่าแนวโน้มปริมาณการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้น หลังสถานการณ์การแพร่งระบาดของโรคโควิด -19 เริ่มผ่อนคลาย และเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ซึ่งคาดว่าปริมาณการใช้น้ำมันในประเทศจะเติบโตประมาณ 8-10%

ซึ่งบริษัทกำหนดวงเงินลงทุนในปี 2565 ไว้ประมาณ 4,000-4,500 ล้านบาท โดยวงเงินประมาณ 1,500=2,000 ล้านบาท พีทีจีวางแผนเพิ่มจำนวนสถานีบริการน้ำมันรองรับประมาณ 80-120 สถานีในปีนี้ จากเดิมที่มีอยู่ประมาณ 2,094 สถานี จะเน้นสถานีบริเวณถนนสายหลัก และสถานีบริการขนาด 4-5 หัวจ่าย และวางเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันให้ได้ถึง 20% จากภาพรวมการใช้น้ำมัน ขณะที่จะรักษาค่าการตลาดไว้ที่ระดับ 1.7-1.8 บาท/ลิตร

อีก 1,500 ล้านบาท บริษัทจะใช้ในการขยายธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-oil) โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้เป็น 20% ของรายได้รวม จากที่อยู่ 10% ซึ่งบริษัทวางแผนขยายร้านกาแฟพันธุ์ไทย จาก 300 สาขาเป็น 600 สาขา เพิ่มจำนวนศูนย์บริการ Autobacs อีก 30 สาขา จากเดิม 26 สาขา เป็น 56 สาขา พร้อมกับทำการตลาดก๊าซหุงต้น (LPG) เพื่อหวังเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด และขยับอันดับจากอันดับ 6 ขึ้นมาอยู่อันดับ 3 รวมไปถึงการทำตลาดสินค้าอื่นที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจ อาทิ น้ำมันพืช แบรนด์ "มีสุข" หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกด้วย โดยเน้นวางจำหน่ายใน Max Mart และร้านค้าโชวห่วย เพื่อลดต้นทุนการจำหน่ายสินค้า เนื่องจากการวางจำหน่ายในห้างค้าปลีกหรือร้านสะดวก มีต้นทุนที่สูง

ส่วนงบลงทุนที่เหลือประมาณ 500-1,000 ล้านบาท จะใช้ในการดำเนินงานธุรกิจใหม่ อาทิ ธุรกิจโรงไฟฟ้า ซึ่งล่าสุดกำลังรอความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายรัฐเกี่ยวกับการกับรับซื้อไฟฟ้า หากชัดเจน พีทีจีก็พร้อมจะเข้าไปลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะ เบื้องต้นพิจาณาลงทุนที่โรงไฟฟ้าใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขนาดกำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์

สำหรับความคืบหน้าการนำบริษัท พีพีพี กรีน คอมเพล็กซ์ จำกัด ที่ PTG ถือหุ้น 40% เข้าตลาดหลักทรัพย์นั้น นายรังสรรค์ กล่าวว่า ยังคงเป็นไปตามแผน คาดว่าจะสามารถยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ประมาณช่วงปลายไตรมาส 2/65 ถึงต้นไตรมาส 3/65