เจนเนอราลี่ กรุ๊ป ยึด 3 กลยุทธ์ เดินหน้า Lifetime Partner 24: Driving Growth

เจนเนอราลี่ กรุ๊ปเดินหน้าธุรกิจ ปรับกลยุทธ์ Lifetime Partner สู่การเป็น “Lifetime Partner 24: Driving Growth” ชู 3 สามเสาหลัก ขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วย เพิ่มอัตราผลตอบแทน และเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม

นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์

เปิดเผยว่า บริษัทได้วางกลยุทธ์ทางธุรกิจในอีก 3 ปีจากนี้ (2022-2024) ด้วยการต่อยอดกลยุทธ์ Lifetime Partner สู่การเป็น “Lifetime Partner 24: Driving Growth” โดยแบ่งแนวทางการดำเนินงานออกเป็น 3 หลักใหญ่ ๆ คือ

ขับเคลื่อนเพื่อเติบโตอย่างยั่งยืน (Drive sustainable growth) ด้วยการตั้งเป้าอัตราการเติบโตของบริการประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ (non-motor) อีกกว่า 4% และภายในปี 2024 ต้องมีมูลค่าทางธุรกิจใหม่รวมกว่า 8.6-9.4 หมื่นล้านบาท (2.3-2.5 พันล้านยูโร) แนวทางต่อมาคือ

การเพิ่มอัตราผลตอบแทน (Enhance earnings profile) ด้วยแนวคิดการขับเคลื่อนธุรกิจที่มีการเติบโตเพื่อสร้างผลกำไร รวมถึงการควบรวมกิจการประเภทประกันภัยและการจัดการสินทรัพย์ โดยตั้งเป้าในมูลค่า 0.94-1.12 แสนล้านบาท (2.5-3 พันล้านยูโร) และทำการเพิ่มมูลค่าในการบริหารสินทรัพย์ของกลุ่มบุคคลที่ 3 จำนวน 3.7 พันล้านบาท (100 ล้านยูโร)

สุดท้ายคือ การนำนวัตกรรมมาใช้ (Lead innovation) ซึ่งเจนเนอราลี่ กรุ๊ป เตรียมงบประมาณสำหรับลงทุนด้านเทคโนโลยี 4.1 หมื่นล้านบาท (1.1 พันล้านยูโร) ในปี 2022-2024 เพิ่มขึ้นจากปี 2021 กว่า 60% อีกทั้งยังเตรียมงบประมาณอีกกว่า 9.4 พันล้านบาท (250 ล้านยูโร) สำหรับการสร้างแพลตฟอร์มกองทุนประกันเพื่อควบคุมและสร้างโอกาสที่ดีทางธุรกิจ

นอกจากนี้เจนเนอราลี่ยังมีอีกสองส่วนสำคัญที่มุ่งเน้นให้เกิดขึ้น คือ การสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคงด้วยแนวคิดการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืนมาปรับใช้ในกระบวนการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจ ซึ่งมีองค์ประกอบ 3 มิติ คือ “ESG” ได้แก่ Environment : การให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม Social : การเห็นความสำคัญของสังคม และ Governance : ธรรมาภิบาลหรือบรรษัทภิบาล และดำเนินการตามพันธกิจในฐานะสมาชิกของ Net-Zero Asset Owner Alliance (NZIA) เพื่อสร้างการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน และการสร้างการมีส่วนร่วมและพัฒนาบุคลากรซึ่งเป็นสินทรัพย์หลัก เพื่อให้บุคลากรมีส่วนในการสร้างความสำเร็จตามแผนงานที่วางไว้ รวมถึงการส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่ยั่งยืน และมุ่งเน้นการเสริมสร้างวัฒนธรรมที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางและมีคุณธรรม ไปพร้อมกับการเพิ่มทักษะ (Upskill) 70% ของพนักงานในด้านดิจิทัลและกลยุทธ์ใหม่ ๆ ภายในปี 2024 นอกจากนี้จะยังคงสนับสนุนความเทียมกัน โดยเฉพาะการตั้งเป้าที่จะมีผู้หญิงอยู่ในตำแหน่งผู้นำ 40% พร้อมเปิดรับรูปแบบการทำงานแบบไฮบริดที่ยั่งยืนและสมดุลในรูปแบบใหม่ในทุกส่วนงาน เพื่อให้สำคัญกับพนักงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในยุค “Next Normal”



ทางด้าน มร. ฟิลลิป ดอนเนท ประธานกรรมการบริหารของกลุ่ม เจนเนอราลี่ กรุ๊ป กล่าวว่า การปรับแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจในครั้งนี้ ถือเป็นสิ่งยืนยันความเป็นผู้นำในการตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าในยุค New Normal ด้วยการบริการที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความใส่ใจทุกช่วงเวลาของชีวิต และเชื่อมั่นว่าจะสามารถขับเคลื่อนเจนเนอราลี่ กรุ๊ป ไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งมอบผลประกอบการทางการเงินที่แข็งแกร่ง และช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น การให้คำมั่นสัญญาในการเป็น Lifetime Parter ทำให้เจนเนอราลี่วางลูกค้าเป็นจุดศูนย์กลางของการทำงานทุกอย่าง และกลยุทธ์การดำเนินงานใหม่ของเราก็ยกระดับความสำคัญนี้มากขึ้นไปอีก ด้วยกลยุทธ์ Lifetime Partner 24: Driving Growth และตอกย้ำความเป็นผู้นำที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับลูกค้าและขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เป้าหมายและแผนงานที่ได้ประกาศวันนี้มีความเป็นไปได้ เนื่องมาจากผลสำเร็จจากการแผนการดำเนินงานก่อนหน้านี้ ปัจจุบันเจนเนอราลี่มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีช่องทางการสร้างรายได้ที่หลากหลาย เติบโตแบบมีผลกำไรอย่างสม่ำเสมอ และมีประวัติการให้ผลตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ดีที่สุดในระดับเดียวกัน ซึ่งเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถสร้างความสำเร็จแบบเดียวกันใน 3 ปีข้างหน้านี้ด้วยเช่นกัน


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment