“ออเนอร์กรุ๊ป” ชูวีซ่า 20 ปี ดึงต่างชาติซื้อคอนโด

กลุ่มออเนอร์ กรุ๊ป จัดแคมเปญ “20 Years Visa Complimentary” ให้ลูกค้าต่างชาติที่ซื้อห้องชุด ONCE Pattaya และถือบัตรไทยแลนด์ อีลิท รับสิทธิ์พำนักในเมืองไทยแบบ Long Stay Visa นานสุด 20 ปี

นางสาวธิดา เชิดสุริยา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ออเนอร์ เอสเตท จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้จัดแคมเปญ “20 Years Visa Complimentary” เพิ่มทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่สนใจซื้อที่อยู่อาศัยในเมืองไทย และสมัครบัตรสมาชิก “ไทยแลนด์ อีลิท” ของบริษัทไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (ทีพีซี) รับสิทธิพิเศษของ Previlage Elite Visa สามารถอยู่อาศัยระยะยาวแบบ Long Stay Visa ในเมืองไทยได้นานถึง 20 ปี ซี่งเชื่อมั่นว่าหลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศเปิดประเทศให้ต่างชาติสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและนักลงทุนในเมืองไทยได้แล้ว จะมีชาวต่างชาติสนใจเข้ามาซื้อห้องชุดในเมืองไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในย่านหัวเมืองท่องเที่ยวต่างๆของไทย

โดยลูกค้าต่างชาติที่มีความประสงค์จะซื้อห้องชุดของ ONCE Pattaya สามารถวางเงินจอง 1 แสน หลังจากนั้นบริษัทจะส่งเอกสารของลูกค้าไปตรวจคุณสมบัติก่อนที่ไทยแลนด์ อีลิท ซึ่งจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 1- 3 เดือน ทั้งนี้ลูกค้าชาวต่างชาติจะต้องไม่มีประวัติเป็นบุคคลต้องห้ามในการเดินทางเข้าประเทศไทย รวมถึงไม่เคยมีประวัติอาชญากรมาก่อน

หลังจากได้รับการรับรองคุณสมบัติแล้ว ลูกค้าจะต้องเซ็นสัญญาพร้อมจ่ายเงินเพิ่มอีก 40% โดยผ่อนจ่ายได้ 4 ครั้ง เมื่อจ่ายเงินครบแล้วบริษัทจะส่งเรื่องไปที่ไทยแลนด์ อีลิทอีกรอบ เพื่อแจ้งว่าลูกค้าได้ทำสัญญาซื้อขายห้องชุดกับบริษัทแล้ว และดำเนินการขั้นตอนการติดวีซ่าให้กับลูกค้า ซึ่งจะใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 1 เดือน โดยลูกค้าจะต้องนำพาสปอร์ตของตัวเองไปขอติดวีซ่าประเทศไทยที่สถานฑูตไทยในประเทศของตัวเอง

ส่วนความคืบหน้าของโครงการ Mixed-use ภายใต้ชื่อ “ออเนอร์ เพลส พัทยา” ปัจจุบันอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการแรกชื่อว่า ONCE Pattaya บนที่ดิน2 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียมแบบไฮไรส์สูง 32 ชั้นจำนวน 427 ยูนิต มีขนาดห้องชุดให้เลือกตั้งแต่ห้องสตูดิโอขนาด 28 ตารางเมตร,1 ห้องนอนขนาด 34-34.80 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอนขนาด 51.80-59.80 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Furnished ราคาขายเฉลี่ย 120,000-130,000 บาทต่อตารางเมตร โดยทำยอดขายได้แล้วกว่า 50% ส่วนงานก่อสร้างคืบหน้าถึงชั้นที่ 22 แล้ว คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จช่วงปลายปี 2565 และจะโอนห้องชุดให้กับลูกค้าได้ประมาณต้นปี 2566

ส่วนโรงแรมฮิลตัน การ์เด้น ฮิลล์ ขณะนี้ได้ผ่านการรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นจะเริ่มลงมือก่อสร้างในช่วงต้นปี 2565 ประกอบด้วยอาคารสูง 29 ชั้น จำนวน 300 ห้องพร้อมพื้นที่ชั้นล่างที่ออกแบบเป็นร้านค้าปลีก 6 ร้าน พื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 2,000 ตารางเมตร

ล่าสุดทางโครงการได้จัดโปรโมชั่นราคาขายห้องชุดพิเศษเริ่มต้น 2.98 ล้านบาทสำหรับห้องสตูดิโอ และ 3.49 ล้านบาทสำหรับ 1 ห้องนอน รวมทั้งยังมีการการันตีผลตอบแทนการลงทุน 6% เป็นเวลา 3 ปีให้กับลูกค้าที่ต้องการซื้อเพื่อลงทุน และเปิดรับการจองซื้อห้องชุดผ่านสินทรัพย์ดิจิทัลหรือ Cryptocurrency 3 สกุลเงิน คือ BTC ETH และ USDT สอบถามเพิ่มเติมโทร 061-653-6599 หรือ 038-413-160 ต่อ 111

นายพรเทพ พันธะนะแพทย์ รองผู้จัดการใหญ่สายงานการพาณิชย์และปฏิบัติการ บริษัทไทยแลนด์ พริวิเลจ

คาร์ด จำกัด กล่าวว่า นอกเหนือจากสิทธิพิเศษในการอยู่อาศัยในเมืองไทยได้นานถึง 20 ปีแล้ว ลูกค้าชาวต่างชาติยังสามารถเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง พร้อมรับสิทธิพิเศษในการบริการด้านเอกสารทางราชการไทย ความสะดวกในขั้นตอนการแสดงหนังสือเดินทางและการตรวจคนเข้าเมือง การต้อนรับระดับวีไอพีจากเจ้าหน้าที่ของไทยแลนด์ อีลิทที่สนามบิน รวมทั้งบริการพิเศษจาก Privilege Members ทั้งส่วนลดต่างๆสำหรับการใช้บริการหรือซื้อสินค้าจากบริษัทคู่ค้ากับไทยแลนด์ อีลิท อาทิ รถลีมูซีน สปา สนามกอล์ฟ ห้างสรรพสินค้า และธนาคาร

โดยเฉพาะความสะดวกสบายในการต่ออายุพาสปอร์ต หากชาวต่างชาติอาศัยอยู่ในเมืองไทยครบ 1 ปีไม่ต้องเดินทางออกนอกประเทศไทยเพื่อไปต่ออายุพาสปอร์ต เพียงแค่แจ้งความจำนงมาที่ศูนย์บริการสมาชิก (MCC) ของไทยแลนด์ อีลิท เพื่อให้ติดวีซ่าต่อให้อีก 1 ปี แต่ชาวต่างชาติต้องรายงานตัวภายใน 90 วันตามกฎหมายของการเข้าเมือง โดยสามารถส่งตัวแทนหรือเอเจนด์ไปดำเนินการแทนได้ และต้องมีเอกสาร PM 30 ในกรณีที่เป็นเจ้าของห้องชุดหรือสัญญาเช่าไปแสดงด้วย

ด้านนายคริส เชิดสุริยา หัวหน้าฝ่ายควบคุมอาคาร สำนักการช่างเมืองพัทยา ในฐานะที่ปรึกษาโครงการ ONCE Pattaya กล่าวเสริมถึงศักยภาพของเมืองพัทยาว่า ในอนาคตเมืองพัทยาจะไม่ใช่แค่เมืองท่องเที่ยวอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นศูนย์กลางการลงทุนด้านอุตสาหกรรม สินค้า และการเงิน หลังจากพื้นที่เมืองพัทยาได้ถูกกำหนดให้อยู่ในโซนผังสีแดงหรือพื้นที่พาณิชยกรรม ตามแผนพัฒนาโครงการ EEC (Eastern Economic Coridor) หรือโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งเป็นเมกะโปรเจ็กต์ใหญ่ของรัฐบาลที่มาต่อยอดโครงการอีสเทิร์นซีบอร์ด โดยจะมีการลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ทั้งทางอากาศ ทางราง ทางน้ำ และทางบก อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (อู่ตะเภา-สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง) ระยะทาง 220 กิโลเมตร

ซึ่งปัจจุบันได้มีการส่งมอบพื้นที่ไปแล้วกว่า 90%สำหรับใช้ก่อสร้างงานโยธา

ล่าสุดได้มีการลงนามร่วมก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F จังหวัดชลบุรีเรียบร้อยแล้ว หากก่อสร้างแล้วเสร็จจะทำให้ท่าเรือแหลมฉบังขยับขึ้นมาเป็นท่าเรือที่มีชื่อเสียงอันดับ 10 ของโลกจากปัจจุบันที่อยู่ในอันดับ 20 และในอนาคตเมืองพัทยามีแผนจะก่อสร้างรถไฟรางเบา เพื่อให้บริการรับส่งผู้โดยสารที่เดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงให้เข้าสู่พื้นที่ของเมืองพัทยา โดยมีเส้นทางผ่านพัทยาเหนือ และเข้าสู่ถนนพัทยาสาย 2 ขณะเดียวกันในตัวเมืองพัทยาก็ได้มีแผนนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินถึง 10 เส้นทาง ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว 1 เส้นทางคือ ถนนพัทยาเหนือ เพื่อเพิ่มทัศนียภาพและการอยู่อาศัยที่ดีให้กับเมืองพัทยา


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment