{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
ทานตะวันอุตสาหกรรม หรือ THIP ประกาศไตรมาส 3/2564 กวาดยอดขาย 971 ล้านบาท เติบโต 7.7% มีกำไรสุทธิ 104 ล้านบาท ดันผลงานงวด 9 เดือนแรกปีนี้มีรายได้จากการขาย 2,699 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 352 ล้านบาท
นางพจนารถ ปริญภัทร์ภากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทานตะวันอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ THIP เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทในงวดไตรมาส 3/2564 มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 971 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้ 901 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้นคิดเป็น 21.1% ของยอดขาย ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 25.8% โดยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิดในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ทำให้อัตรากำลังการผลิตลดลงเล็กน้อย ขณะที่มีค่าใช้จ่ายสำหรับป้องกันโควิดเพิ่มขึ้น และอีกส่วนที่สำคัญเกิดจากราคาวัตถุดิบหลักปรับตัวสูงขึ้น โดยราคาตลาดของเม็ดพลาสติกหลักเพิ่มขึ้นจากในช่วงเดียวกันของปี 2563
ส่งผลให้กำไรสุทธิที่ 104 ล้านบาท ลดลง 11 ล้านบาท หรือ 9.6 % เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 116 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 1.16 บาทต่อหุ้น ลดลงจากไตรมาส 3/2563 ที่มีกำไรสุทธิต่อหุ้น 1.29 บาทต่อหุ้น
ส่วนผลประกอบการของบริษัทในงวด 9 เดือน ปี 2564 มีรายได้จากการขาย 2,699 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 352 ล้านบาท เติบโต 15% ของยอดขายจากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,347 ล้านบาท มีกำไรสุทธิที่ 249 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.97 ล้านบาท หรือ 1.2% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 246 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 4 ช่วงโค้งสุดท้ายของปี คาดยอดขายยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจากตลาดบรรจุภัณฑ์ โดยบริษัทฯได้ขยายกำลังการผลิตเพิ่ม เพื่อรองรับดีมานด์จากลูกค้าต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการทำตลาดลูกค้าใหม่ๆ เอื้อธุรกิจเติบโตในระยะยาว พร้อมเสริมความแข็งแกร่งของแบรนด์ SUN ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยในส่วนสินค้าใหม่ ซันซิปแอนตี้ไวรัส (SUNZIP ANTIVIRUS) สินค้านวัตกรรมรายแรกที่ผ่านการรับรองจากสถาบันวิจัยมาตรฐานโลก และ ถุงเก็บน้ำนมแม่รุ่นใหม่ที่มี QR code (SUNMUM SMART BAG) โดยเปิดตัวพร้อมกับ Application SUNFAMILY ช่วยให้คุณแม่ยุคใหม่สะดวกและง่ายต่อการบริหารจัดการสต๊อกน้ำนม ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน Application SUNFAMILY มากกว่า 4,000 ราย
โดยกลยุทธ์การผลักดันแบรนด์สินค้าของบริษัทเอง จากการศึกษาพบว่ายอดขายสินค้าที่เป็นแบรนด์ของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้น แต่ยังคงกระจุกตัวอยู่ในหัวเมือง โดยบริษัทจะขยายผลไปที่ช่องทางการจำหน่ายเพิ่มเติม เช่น E-commerce, Modern Trade, Traditional trade และ Co-Branding กับแบรนด์ที่เป็นพันธมิตร เป็นต้น
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS