ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป มั่นใจปี 2564 เติบโต 30 %

เอชเอ คอร์ปอเรชั่น หรือ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป มั่นใจการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก เร่งทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัล หนุนการค้าคาดการณ์รายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรปกติจะเติบโตกว่าร้อยละ 30

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2564 บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป) คาดการณ์รายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรปกติจะสูงเป็นประวัติการณ์ ด้วยอัตราการเติบโตกว่าร้อยละ 30 จากปีก่อน โดยที่ยังคงระดับความสามารถในการทำกำไรสูงด้วยกำไรจากการดำเนินการก่อนหักค่าใช้จ่าย (EBITDA) กว่าร้อยละ 40 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังตั้งเป้าขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) มูลค่ากว่า 5,500 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 อีกด้วย

สำหรับทิศทางกลยุทธ์แผนธุรกิจประจำปี 2564 และในอนาคตของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป

กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2564 และมีแนวโน้มสดใสด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซ รวมถึงความร่วมมือระยะยาวกับพันธมิตรสำคัญระดับโลก ตลอดจนการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาปรับใช้

ในครึ่งแรกของปี 2564 มีการเซ็นสัญญาโครงการใหม่ ๆ รวมพื้นที่ 35,000 ตารางเมตร และสัญญาระยะสั้นอีก 100,000 ตารางเมตร และภายในสิ้นปี จะมีการส่งมอบโครงการโลจิสติกส์แห่งใหม่ 5 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่รวมมากกว่า 110,000 ตารางเมตร พร้อมเปิดตัวโครงการเมกกะ โลจิสติกส์ แห่งใหม่ และขยายพื้นที่ในโครงการเดิม ขนาดกว่า 400,000 ตารางเมตร

สถานการณ์โควิด-19 ช่วยเร่งให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตเร็วขึ้น และเป็นการเพิ่มความต้องการศูนย์กระจายสินค้าสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค นอกจากนี้ ธุรกิจโลจิสติกส์ของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ปยังได้รับผลตอบรับที่ดีจากความต้องการโรงงานสำเร็จรูป (Ready-Built Factories - RBF) และคลังสินค้าสำเร็จรูป (Ready-Built Warehouse – RBW) ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มมากขึ้น คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีพื้นที่คลังสินค้าภายใต้การถือครองและบริหารจัดการรวม 2,560,000 ตารางเมตร

ธุรกิจโลจิสติกส์ของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ยังได้เดินหน้าในการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาปรับใช้เพื่อสร้างโซลูชันบริการที่เปี่ยมนวัตกรรมแบบครบวงจรที่สร้างมูลค่าใหม่ ๆ มุ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทั้งนี้บริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นร้อยละ 29.40 ในบริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด ผู้ให้บริการให้เช่าพื้นที่จัดเก็บทรัพย์สินส่วนบุคคลระดับพรีเมียม ภายใต้แบรนด์ “i-Store Self Storage” โดยดับบลิวเอชเอจะใช้ความเชี่ยวชาญและองค์ความรู้ในธุรกิจโลจิสติกส์มาสนับสนุนสตอเรจ เอเชีย ในการสร้างสรรค์การให้บริการพื้นที่จัดเก็บทรัพย์สินส่วนบุคคลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง ซึ่งในปีนี้ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป มีแผนที่จะขายทรัพย์สิน ได้แก่โครงการ Built-to-Suit Warehouse และ General Warehouses ขนาด 180,000 ตารางเมตร เข้ากองทรัสต์ WHART ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า 5,500 ล้านบาท

กลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ (WHAID) ตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดทั้งในประเทศไทยและขยายธุรกิจสู่เวียดนาม ปัจจุบัน มีนิคมอุตสาหกรรมทั้งสิ้น 12 แห่ง โดยตั้งอยู่ในประเทศไทย 11 แห่ง และเวียดนามอีก 1 แห่ง นอกจากนี้ ยังกำลังพัฒนานิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่เพิ่มอีก 3 โครงการในประเทศไทย และอีก 2 โครงการในเวียดนาม คิดเป็นพื้นที่รวม 68,000 ไร่ ซึ่งรวมพื้นที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่จำนวน 49,900 ไร่

ด้านสาธารณูปโภค ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ ยังคงเดินหน้าขยายผลิตภัณฑ์และโซลูชันอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม ด้านพลังงาน ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ ยังคงขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องด้วยการพัฒนาโซลูชันพลังงานหมุนเวียน นอกเหนือจากพลังงานแบบดั้งเดิม ทั้งนี้ในปี 2564 บริษัทฯ จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นทั้งสิ้น 670 เมกะวัตต์

ธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์มของดับบลิวเอชเอ ยังคงดำเนินแผนการให้บริการไฟเบอร์ออปติก (FTTx) ในนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 10 แห่งของดับบลิวเอชเอในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบัน FTTx ได้ให้บริการแก่ลูกค้าทั้งหมดในนิคมอุตสาหกรรม 6 แห่ง ในขณะที่กำลังดำเนินการติดตั้งให้ครอบคลุมพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมที่เหลืออยู่อีก 4 แห่ง

ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ยังได้สนับสนุนระบบสาธารณสุขในประเทศ โดยการนำคลังสินค้าในโครงการดับบลิวเอชเอ เมกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ ชลหารพิจิตร กม. 4 จังหวัดสมุทรปราการ บนพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร เป็นโรงพยาบาลสนาม “สมุทรปราการรวมใจ 5 (WHA)” ขนาด 1,300 เตียง สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ

นอกจากนี้ เพื่อขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป บริษัทได้เปิดตัว "WHA Office Solutions" นำเสนอพื้นที่สำนักงานชั้นนำระดับเวิลด์คลาสบนพื้นที่รวม 100,000 ตารางเมตร บน 6 ทำเลทองในกรุงเทพฯ และสมุทรปราการ รวมถึงสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ “ดับบลิวเอชเอ ทาวเวอร์”, โครงการ SJ Infinite I, ตึกสำนักงาน @Premium, โครงการ WHA Bangna Business Complex, ศูนย์บ่มเพาะนวัตกรรมทัสพาร์ค ดับบลิวเอชเอ ตลอดจนโครงการ WHA KW S25 ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment