{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
กลุ่มดุสิตธานี เปิดโมเดล“ดุสิต ฟู้ดส์” ทำธุรกิจอาหาร Bring Asia to the World ใช้กลยุทธ์ลงทุนในบริษัทต่างๆ และขายเอง นำร่องด้วยแบรนด์ “ของไทย” เปิดตัวเป็นครั้งแรกในงาน THAIFEX World of Food Asia 2019 ตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้ 400 ล้าน และ3 ปีจะไปให้ถึงหลักพันล้าน
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ จำกัด ซึงเป็นบริษัทในเครือ ได้โอกาสเข้าร่วมงานTHAIFEX World of Food Asia 2019 ระหว่าง 28 พ.ค.- 1 มิ.ย.62 ที่อิมแพค เมืองทองธานี ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอาหารที่มีผู้คนที่เกี่ยวข้องในแวดวงอุตสาหกรรมอาหารให้ความสนใจเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง และจะเป็นโอกาสสำคัญที่เปิดตัวแบรนด์สินค้าของบริษัทและการออกไปทำตลาดในต่างประเทศ
นายเจตน์ โศภิษฐ์พงศธร กรรรมการผู้จัดการ บริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ จำกัด กล่าวว่า โมเดลธุรกิจของดุสิต ฟู้ดส์ จะสร้างการเติบโตจาก 2 ส่วน นั่นคือ organic ซึ่งเป็นการออกและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เอง และ non-organic คือ การเข้าไปลงทุนในบริษัทต่างๆ ซึ่งนโยบายการลงทุนของบริษัทจะเน้นลงทุนในธุรกิจที่สามารถเชื่อมต่อ สร้างคุณค่า และยกระดับเพิ่มมาตรฐานให้กับธุรกิจที่มีอยู่เดิม ที่ผ่านมา ดุสิต ฟู้ดส์ ได้เข้าไปลงทุนด้วยการถือหุ้น 26% ในบริษัท เอ็นอาร์อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด หรือ NRF ซึ่งเป็นโรงงานผลิตอาหารที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 25 ปี ผลิตสินค้าส่งออก25 ประเทศทั่วโลก ให้กับแบรนด์ต่างๆ กว่า 50 แบรนด์ และเข้าลงทุนในบริษัท เอ็บเพอคิวร์ เคเทอริ่ง จำกัด หรือ ECC ซึ่งเป็นผู้นำให้บริการผลิตอาหารให้กับโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยกว่า 30 แห่ง โดยเข้าไปถือหุ้น 51% และวางแผนจะลงทุนเพิ่มอีก 19% รวมเป็นถือหุ้น 70% ในต้นปี 2563
โดยบริษัท วางเป้าหมายสร้างรายได้จากธุรกิจอาหารรวม 1,000 ล้านบาท ในช่วง 3 ปี (2562-2564) และในปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้จากธุรกิจอาหารไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งมาจากการเข้าไปลงทุนในบริษัทต่างๆ
ส่วนการออกและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เองนั้น ดุสิต ฟู้ดส์ ได้วางแผนสร้างแบรนด์ “ของไทย” ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุง ที่เน้นวางจำหน่ายในต่างประเทศเป็นหลัก โดยลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในช่วงแรก จะเป็นภัตตาคารที่มีระดับ (White Table Cloth) ก่อน จึงขยายไปร้านอาหารทั่วไป (Food Services) เป็นต้น
ในเบื้องต้นนี้มีการผลิตออกมา 4 เมนู ได้แก่ แกงเขียวหวาน แกงมัสมัน แกงกะหรี่ และก๋วยเตี๋ยวแขก ซึ่งแต่ละเมนูจะมี 2 รูปแบบคือ พร้อมปรุง (Simmer Sauce, Ready to Cook) และแบบเข้มข้น (Concentrate Paste) ที่สามารถนำไปเพิ่มกะทิและน้ำตามสูตรที่ต้องการ หลังจากนั้น จะขยายเป็น 8 เมนู ได้แก่ ซอสผัดไทยและซอสปรุงรสต่างๆ เช่น ซอสพริกศรีราชา น้ำปลา ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม ก่อนจะขยับเป็น 20 เมนู ในอีก 2ปีข้างหน้า
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS