TFGงบสวยครึ่งแรกปี 64 กำไร875.07 ล้าน จ่ายปันผลระหว่างกาล 0.05 บ./หุ้น

TFG เปิดงบงวดครึ่งแรกปี 2564 กำไรสุทธิอยู่ที่ 875.07 ล้านบาท ผลจากรายได้จากธุรกิจไก่ สุกรและอาหารสัตว์โตต่อเนื่อง ครึ่งปีหลังแนวโน้มธุรกิจยังเติบโตได้ดี เดินหน้าขยายโรงงานอาหารสัตว์ สร้างฟาร์มพ่อแม่พันธ์สุกรเพิ่ม บอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล อัตราหุ้นละ 0.05 บาท

นายเพชร นันทวิสัย ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2564 มีรายได้รวมอยู่ที่ 8,744.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.25% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวมเท่ากับ 7,271.48 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 429.59 ล้านบาท

ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวมอยู่ที่ 17,147.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.94% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวมเท่ากับ 15,318.35 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 875.07 ล้านบาท

ปัจจัยที่สนับสนุนผลการดำเนินงานมีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากรายได้จากธุรกิจไก่ ธุรกิจสุกร และธุรกิจอาหารสัตว์ เพิ่มขึ้น หลังบริษัทฯขยายการลงทุน และขยายตลาดใหม่ เพื่อรองรับความต้องการลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ

"ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในครึ่งแรกของปีนี้ ยังเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย แต่บริษัทฯยังสามารถรักษาการทำกำไรไว้ได้ เนื่องจากธุรกิจสุกรมีการเติบโตได้ดี จากความต้องการของตลาด และปริมาณการผลิตในไทยที่มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตประมาณ 20% รวมถึงธุรกิจอาหารสัตว์ที่จะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง”

ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2564 ได้อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท โดยเป็นการจ่ายจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกปี 2564 และกำไรสะสม โดยวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date)ภายในวันที่ 30 สิงหาคม 2564 และวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 กันยายน 2564

ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กล่าวอีกว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง คาดว่ายังเติบโตได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ เนื่องจากธุรกิจสุกรจะมีการขยายตัวจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น และราคาที่อยู่ในระดับที่ดี รวมทั้งจะมีการขยายโรงชำแหละสุกร ขยายฟาร์มระดับพ่อแม่พันธุ์สุกรทั้งในประเทศ และประเทศเวียดนาม ซึ่งได้เริ่มดำเนินไปแล้วบางส่วน โดยในปีนี้จะสร้างฟาร์มพ่อแม่พันธุ์สุกรเพิ่มเติม รวมถึงการขยายโรงงานอาหารสัตว์ในประเทศไทย และเวียดนาม คาดว่าจะใช้เงินลงทุนในปีนี้ราว 3,000-3,500 ล้านบาท ซึ่งประมาณ 80% เป็นการขยายการลงทุนในไทย และส่วนที่เหลือ 20% ลงทุนในเวียดนาม รวมทั้งยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการได้รับใบอนุญาตให้ส่งออกไปที่สหภาพยุโรป (EU) เพิ่มเติมสำหรับสินค้าปรุงสุก

ขณะเดียวกันบริษัทฯเริ่มมีการขยายธุรกิจร้านสะดวกซื้อสำหรับเนื้อสดในรูปแบบตลาดสดภายใต้ชื่อร้าน Thai Foods Fresh Market หรือตลาดสดไทยฟู้ดส์ โดยปัจจุบันมี 29 สาขา ในปี 2564 ถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเนื้อสัตว์ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมดีขึ้น ผลักดันรายได้กำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment