SPCGกำไรครึ่งปี 1,483.6 ล้านบาท ปันผลระหว่างกาล 0.25 บาทต่อหุ้น

SPCG เผยครึ่งปีแรก 64 มีกำไรกว่า 1,483.6 ล้านบาท เผยมีแผนออกหุ้นกู้ 2,500 ล้านบาท เคาะจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.25 บาทต่อหุ้น เตรียมเงินลงทุนใน 3-5 ปี เร่งเติมเงินลงทุน 2 โครงการใหญ่ในญี่ปุ่น มั่นใจอนาคตสร้างผลตอบแทนที่ดีกลับคืนมา

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ “SPCG” เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวด 6 เดือนหรือครึ่งปีแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัท มีกำไรสุทธิกว่า 1,483.6 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6 จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรอยู่ที่ 1,584.3 ล้านบาท และรายได้รวมกว่า 2,360.6 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 10 จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 2,629.2 ล้านบาท โดยไตรมาส 2 ปีนี้กำไรสุทธิกว่า 701.3 ล้านบาท

นอกจากนั้นที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากงวดผลดำเนินงานงวดวันที่

1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2564 และกำไรสะสม ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท จำนวน 1,055,790,000 หุ้น รวมเป็นจำนวนเงิน 263,947,500.00 (สองร้อยหกสิบสามล้านเก้าแสนสี่หมื่นเจ็ดพันห้าร้อยบาท) โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 30 สิงหาคม 2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 กันยายน 2564

สำหรับในไตรมาส 2 นี้ โซลาร์ฟาร์มที่ นครพนม 1 ค่าแอดเดอร์หรือรายได้เงินอุดหนุนส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าที่หน่วยละ 8 บาท ได้สิ้นสุดลง ซึ่งถ้ารวมตั้งแต่ปี 2563 บริษัทมี 3 โซลาร์ฟาร์ม ที่ค่าแอดเดอร์หมดไปจากทั้งหมด 36 แห่ง ได้แก่ โครงการที่ โคราช 1 (20 เมษายน 2563), สกลนคร 1 (8 กุมภาพันธ์ 2564) และ นครพนม 1 (19 เมษายน 2564) อย่างไรก็ตามแม้ค่าแอดเดอร์หมดไปบริษัทยังคงได้รับเงินจากการขายไฟตามปกติ

สาเหตุที่บริษัทมีกำไรลดลงเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

(Covid-19) ที่ส่งผลกระทบทั่วโลก ทำให้แผนงานหลายโครงการไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะบริษัทย่อย

โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟ (SPR) ที่ให้บริการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา เนื่องจากลูกค้าโรงงานหลายแห่งชะลอการติดตั้งจากกรณีล็อกดาวน์ และลูกค้าโรงงานที่เป็นชาวญี่ปุ่นต่างต้องเดินทางกลับประเทศเพื่อรับวัคซีน

โดยบริษัทคาดว่ารายได้จาก SPR ในปีนี้จะไม่เป็นไปเป้าหมายที่ตั้งประมาณการณ์ไว้

ขณะที่บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด (SET ENERGY) ที่ดำเนินงานโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

จำนวน 500 เมกะวัตต์ ในพื้นที่เมืองใหม่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกฯ หรือ อีอีซี ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ทำให้บริษัทต้องชะลอแผนการดำเนินงานโครงการออกไป ส่งผลให้การรับรู้รายได้จากเดิมที่คาดว่าจะทำได้ปีนี้ อาจต้องเลื่อนออกไปราวไตรมาส 1-2 ปี 2565

อย่างไรก็ตามแม้บริษัทจะได้รับผลกระทบดังกล่าว แต่บริษัทก็ยังคงสามารถทำกำไรได้ต่อเนื่องและสามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้เช่นเดิม แม้บริษัทต้องรักษากระแสเงินสดไว้เป็นสภาพคล่องในการดำเนินงานและลงทุนต่อไปในอนาคต

ดร.วันดี กล่าวถึงเหตุผลที่ทำให้บริษัททำกำไรได้ต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการเดินหน้านโยบายปรับลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการต้นทุนด้านต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ต้นทุน O&M (Operating & Maintenance) สำหรับธุรกิจโซลาร์ฟาร์มทั้งในปัจจุบันและอนาคต ลดลงอย่างเป็นนัยสำคัญ และบริษัทมั่นใจหากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ผ่อนคลายลง จะทำให้วิกฤติเศรษฐกิจโลกกลับคืนสู่ปกติ SPCG จะมีผลตอบแทนที่ดีขึ้นในอนาคต เพราะได้เตรียมแผนลงทุนเพิ่มในช่วงเวลา 3-5 ปีนี้

ดังนั้นบริษัทจึงมีแผนออกหุ้นกู้จำนวน 2,500 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุน 1. โครงการโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่น 2 แห่ง ได้แก่ โครงการ “Ukujima Mega Solar Project” ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 480 เมกะวัตต์ งบการลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 54,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 17.92% คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 2,700 ล้านบาท 2. โครงการ “Fukuoka Miyako Mega Solar” ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 67 เมกะวัตต์ งบการลงทุนประมาณ 23,493 ล้านเยน โดย SPCG ถือหุ้นในโครงการนี้ราว 10% คิดเป็นเงินลงทุนราว 94 ล้านบาท และ 3. เงินลงทุนในบริษัท MSEK ที่ทำธุรกิจลิสซิ่งให้บริการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ในไทย 4. ใส่เงินลงทุนในบริษัท

SET ENERGY นอกจากนั้นเป็นเงินลงทุนต่อไปในอนาคต

สำหรับ 2 โครงการใหญ่ที่ญี่ปุ่น ขณะนี้เริ่มมีความคืบหน้ามากขึ้น สำหรับโครงการ Ukujima Mega Solar Projectบริษัทจะชำระเงินงวดที่เหลือภายในไตรมาส 1 ปี 2565 ส่วนโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ Fukuoka Miyako Mega Solar ณ เกาะคิวชู (Kyushu) เมืองมิยาโกะ ประเทศญี่ปุ่น บริษัทมีแผนที่จะเข้าไปร่วมทุนภายในไตรมาส 3 ปี 2564 ซึ่งSPCG มั่นใจว่า โซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่นทุกโครงการที่บริษัทลงทุน จะสร้างผลตอบแทนที่ดีกลับคืนมาให้บริษัทได้ในอนาคต


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment