BGCฟอร์มQ2/64เด่นกำไร122 ล้าน พุ่งแรง 53% บอร์ดไฟเขียวปันผลระหว่างกาล 0.12 บาทต่อหุ้น

บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส หรือ BGC เติบโตโดดเด่นสวนกระแส ไตรมาส 2/2564 ทำกำไรสุทธิ 122 ล้านบาท พุ่งแรง 53% บอร์ดอนุมัติปันผลระหว่างกาล 0.12 บาทต่อหุ้น พร้อมไฟเขียว BGP ขยายการลงทุนบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน

นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2564 บริษัทมีรายได้จากการขาย 3,150 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 122 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตอกย้ำความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจและศักยภาพการเติบโตที่โดดเด่น

ปัจจัยที่บริษัท สามารถทำผลการดำเนินงานเติบโตได้ดี มาจากความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง โดยบริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อสินค้าตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่งผลดีต่อการบริหารจัดการด้านการผลิตภายในโรงงาน โดยประสิทธิภาพในการผลิต (Efficiency Rate) ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 86.5% และในขณะเดียวกันบริษัทฯ เริ่มรับรู้รายได้จากการลงทุนในบริษัท บางกอกบรรจุภัณฑ์ จำกัด (BVP) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์กระดาษ และบริษัท บีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (BGP) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายฟิล์มพลาสติก ฝาพลาสติก ขวด PET หลอดพรีฟอร์ม ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ตามกลยุทธ์ยกระดับธุรกิจสู่ Total Packaging Solutions ซึ่งส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปีนี้ที่มีรายได้จากการขาย 6,531 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 311 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

“การเข้าซื้อกิจการดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ มี Product Mixed ที่หลากหลายยิ่งขึ้น จากเดิมที่มีเฉพาะบรรจุภัณฑ์แก้ว และยังทำให้บริษัทฯ มีอำนาจต่อรองที่ดีและสามารถเพิ่มยอดขายจากลูกค้าแต่ละราย รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการต้นทุนด้านต่าง ๆ โดยคาดว่าในปีนี้ทั้ง 2 บริษัทฯ (BVP และ BGP) จะมียอดขายรวมกันประมาณ 2,000 ล้านบาท” นายศิลปรัตน์ กล่าว

จากผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทจึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.12 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 83.33 ล้านบาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ และจะจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 10 กันยายน 2564

ขณะเดียวกัน คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติงบลงทุน 176 ล้านบาท สำหรับ BGP เพื่อเดินหน้าขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) กำลังการผลิตสูงสุด 50 ล้านเมตรต่อปี ซึ่งเป็นการเพิ่มพอร์ตสินค้าและความหลากหลายด้านบรรจุภัณฑ์ ตอบสนองความต้องการกลุ่มถุงบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนภายในประเทศที่มีอัตราเติบโตสูง ขยายผลิตภัณฑ์เข้าสู่ธุรกิจกลางน้ำ และรองรับเป้าหมายการเติบโตของกลุ่มบรรจุภัณฑ์ในอนาคต คาดว่าจะเริ่มการลงทุนขยายกำลังการผลิตในไตรมาส 1/2565 และแล้วเสร็จเริ่มผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายได้ภายในไตรมาส 1/2566 ซึ่งจะเป็นหนึ่งในแผนการลงทุนที่จะขับเคลื่อนการเติบโตเพื่อบรรลุเป้าหมายรายได้ 2.5 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2025

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BGC กล่าวต่อว่า สำหรับแนวโน้มการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังยังมั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ตามแผนงานที่วางไว้ และผลักดันผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ทั้งปีเติบโตใกล้เคียงกับช่วงก่อนสถานการณ์ COVID-19 ในปี 2562 เนื่องจากความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์แก้วและบรรจุภัณฑ์อื่น ๆ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ทั้งประเทศและห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงวางเป้าหมายสร้างยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง แม้มีปัจจัยลบและความท้าทายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ โดยเชื่อว่าหากกระจายวัคซีนแก่ประชาชนได้มากขึ้นและสถานการณ์ COVID-19 เริ่มคลี่คลาย จะส่งผลให้ธุรกิจต่าง ๆ ทยอยเปิดกิจการ ทำให้ดีมานด์บรรจุภัณฑ์มีโอกาสเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับในช่วงไตรมาสสุดท้ายของทุกปีถือเป็นไฮซีซั่นหรือฤดูการขายสินค้า ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อผลประกอบการของบริษัท


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment