ออริจิ้น ผนึก โตคิว แลนด์ เอเชีย พัฒนา “วัน พญาไท” มูลค่ากว่า 3,600 ล้านบาท

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จับมือ โตคิว แลนด์ เอเชีย พันธมิตรยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น ร่วมทุนพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสออฟฟิศ-ค้าปลีก-โรงแรม “วัน พญาไท” มูลค่า REIT 3,600 ล้านบาท ขยายฐานรลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เชื่อมั่น COVID-19 คลี่คลายก่อนเปิดให้บริการปลายปี 2566

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ในเครือออริจิ้นได้ร่วมทุน (Joint Venture) กับบริษัท โตคิว แลนด์ เอเชีย จำกัด ในเครือโตคิว แลนด์ คอร์เปอเรชั่น หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ในสัดส่วนการลงทุน 51:49 เพื่อพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสภายใต้ชื่อวัน พญาไท (One Phayathai) มูลค่า REIT กว่า 3,600 ล้านบาท

“โตคิว แลนด์ เอเชีย ถือเป็นพันธมิตรยักษ์ใหญ่ที่มีความแข็งแกร่งทั้งด้านเงินทุน โนว์ฮาว ตลอดจนประสบการณ์อันยาวนานในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภททั้งในญี่ปุ่นและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกันกับเราในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เพื่อสร้างอีโคซิสเท็มแห่งการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดเพื่อผู้บริโภค ความร่วมมือในครั้งนี้ จะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกัน ทั้งด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน การออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม และจะเป็นบันไดก้าวสำคัญของทั้ง 2 บริษัทในการสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตแบบ Next Level ให้แก่ผู้บริโภค” นายพีระพงศ์ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัท โตคิว แลนด์ เอเชีย จำกัด เป็นบริษัทพัฒนาและลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเครือโตคิว แลนด์ คอร์เปอเรชั่น หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากประเทศญี่ปุ่นที่สั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนาน 67 ปี ภายใต้การดำเนินธุรกิจของโตคิว ฟูโดซัง โฮลดิ้ง คอร์เปอเรชั่น บริษัทยักษ์ใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น ซึ่งติดหนึ่งในบริษัทดัชนี Nikkei 225 มีมูลค่าทรัพย์สิน ณ สิ้นปีงบการเงินล่าสุดของญี่ปุ่น (31 มี.ค.64) ประมาณ 2,652,000 ล้านเยน หรือราว 790,000 ล้านบาท โดยการพิจารณามาร่วมทุนกับออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมั่นใจของบริษัทยักษ์ใหญ่จากต่างประเทศต่อทั้งตัวออริจิ้นและการลงทุนในประเทศไทย

ด้านนายมาซาโอกิ คาเนมัตซึ (Mr.Masaoki Kanematsu) *กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตคิว แลนด์ เอเชีย จำกัด ณ ขณะที่ดำเนินการร่วมทุน กล่าวว่า การร่วมทุนพัฒนาโครงการวัน พญาไท ในครั้งนี้ ถือเป็นการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยครั้งแรกของบริษัทหลังจากพิจารณามองหาพันธมิตรที่เหมาะสมและมีชื่อเสียงในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน และมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับพันธมิตรด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความน่าเชื่อถือเช่นเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ บริษัทมุ่งหวังว่าการร่วมทุนในครั้งนี้จะก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกัน และเป็นรากฐานสำคัญสู่การมองหาโอกาสสร้างความร่วมมือในธุรกิจด้านอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจพลังงานทดแทน รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ที่สามารถสร้างการเติบโตในอนาคตในตลาดที่กำลังเติบโตอย่างประเทศไทย



สำหรับโครงการวัน พญาไท เป็นโครงการมิกซ์ยูส (Mixed-use) สูง 31 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่ 1-3-0 ไร่ ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองติดกับโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่พาร์ค ออริจิ้น พญาไท (Park Origin Phayathai) พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด ‘’ONE STEP JOURNEY’’ เป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตภายในโครงการ เพียง 1 ก้าว จากส่วนคอนโดที่พักอาศัย อีกทั้งเป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่จะมีแบรนด์โรงแรมระดับโลก 2 แบรนด์ภายในอาคารเดียวกัน แบรนด์แรกคือ Hotel Indigo ซึ่งเป็นโรงแรมในคอนเซ็ปต์บูทีคโฮเทล ที่มีห้องพัก 210 ห้อง และอีกหนึ่งซึ่งเป็นแบรนด์โรงแรมที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีอย่าง Holiday Inn Express ซึ่งมีห้องพัก 202 ห้อง โดยทั้งสองแบรนด์ภายใต้เครือ IHG Hotels & Resorts โครงการนี้จึงสามารถมอบประสบการณ์โรงแรมที่แตกต่างให้กับทั้งนักเดินทางที่มาเพื่อการท่องเที่ยวและนักเดินทางที่เดินทางมาเพื่อติดต่อธุรกิจในย่านใจกลางเมือง

นอกจากนี้ ภายในอาคารยังประกอบด้วย พื้นที่เชิงพาณิชย์สำหรับร้านค้าและอาคารสำนักงาน 2,200 ตารางเมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมพื้นที่ใช้สอยกว่า 26,880 ตารางเมตร เพียง 200 เมตรจากรถไฟฟ้า 2 สาย ได้แก่ BTS สายสีเขียวและแอร์พอร์ต เรลลิงก์ สถานีพญาไท สามารถเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ และสนามบินนานาชาติดอนเมือง วางแผนเริ่มก่อสร้างไตรมาส 3/2564 และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2566 ซึ่งคาดว่าสถานการณ์ COVID-19 น่าจะคลี่คลายลงแล้ว

ทั้งนี้ โครงการวัน พญาไท ได้ออกแบบภายใต้การคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและชุมชนรอบโครงการ โดยมีการออกแบบส่วนพื้นที่สีเขียวด้านหน้าโครงการอย่างเหมาะสม และมีการเพิ่ม green façade ของโครงการในแนวตั้ง ซึ่งทำให้ลดความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ภายในอาคาร รวมถึงมีการออกแบบพื้นที่ช่องเปิดของอาคารให้มีขนาดเพียงพอให้แสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวอาคาร ซึ่งช่วยลดความร้อนที่เกินความจำเป็นและยังช่วยประหยัดการใช้พลังงานภายในอาคาร มีการคำนึงถึงการลดมลพิษของพื้นที่จอดรถของโครงการ โดยการออกแบบที่จอดรถอัตโนมัติในส่วนพื้นที่เหนือพื้นดิน และโครงการมีการใช้วัสดุก่อสร้างที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเป็นวัสดุที่มีค่าสะท้อนแสงน้อย เพื่อเป็นมิตรกับชุมชนรอบโครงการ


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment