{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
"We aren't cyclists, we're just Dutch."
“จักรยาน” ถือเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของชาวดัตช์ทุกคน
รู้หรือไม่?
99% ของชาวดัตช์ปั่นจักรยานในชีวิตประจำวัน
99% ของประชากรในประเทศเนเธอร์แลนด์ที่มีอยู่ราว 17 ล้านคน ขี่ “จักรยาน” ทุกวัน
โดยเฉลี่ยแล้ว ในทุกๆวัน ชาวดัตช์จะขี่จักรยานด้วยระยะทางคนละ 2.5 กิโลเมตร
ทั่วทั้งประเทศ มีเส้นทางปั่นจักรยานรวมระยะทาง 35,000 กิโลเมตร
เส้นทางจักรยานในประเทศเนเธอร์แลนด์นั้น เรียกได้ว่าเป็น “เส้นทางปั่นจักรยานในอุดมคติ”
เพราะเป็นเส้นทางที่ออกแบบสำหรับจักรยานโดยเฉพาะ เส้นทางเรียบตลอดทั่วทั้งประเทศ มีทางข้าม ป้ายจราจร และสัญญาณจราจรสำหรับจักรยาน
เป็นเส้นทางจักรยานที่ต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด มิฉะนั้นจะถูกใบสั่งและปรับ เพื่อให้ชาวดัตช์ขี่จักรยานกันได้อย่างอุ่นใจและปลอดภัย เพราะมีกฎหมายคุ้มครองเข้มงวดและมีเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำหน้าที่ดูแล แม้จะมีอุบัติเหตุบ้าง แต่ไม่ร้ายแรง และไม่ใช่อุบัติเหตุที่เกิดจากยานพาหนะอื่น เพราะคนขับรถหรือยานพาหนะอื่นก็เป็นนักปั่นด้วยเหมือนกัน
จุดเริ่มต้นของ “วิถีแห่งจักรยาน” ในเนเธอร์แลนด์
ช่วงปี 2503-2512 เมืองต่างๆ ในเนเธอร์แลนด์มีปริมาณรถเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากทุกปี ในปี 2514 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนราว 3,300 คน ในจำนวนนั้นเป็นเด็กถึง 450 คน จึงเกิดการจัดตั้งกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อรณรงค์ความปลอดภัย ชื่อว่า “หยุดฆาตกรรมเด็ก” (Stop de Kindermoord) รณรงค์เคลื่อนไหวโดยใช้จักรยานปิดถนนและทางแยกที่เกิดอุบัติเหตุบ่อย ปิดถนนให้เด็กได้เล่นอย่างปลอดภัย ตั้งโต๊ะทานข้าวกันบนถนน ซึ่งแม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังมาช่วยอำนวยความสะดวกให้ด้วย
กลุ่มเคลื่อนไหวดังกล่าวมีผู้สนับสนุนและเข้าร่วมจำนวนมาก หลังจากนั้น รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ก็ได้เข้ามาร่วมให้การสนับสนุนด้วย จนมีการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ และพัฒนาต่อเป็นแนวคิดการวางผังเมืองปลอดภัย
ในช่วงวิกฤตน้ำมันปี 2516 ที่เกิดสงครามระหว่างอิสราเอลและชาติอาหรับ เวลานั้น สหรัฐอเมริกาเลือกที่จะเข้าข้างอิสราเอล กลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก หรือ OPEC รวมถึงอียิปต์และซีเรีย จึงประกาศงดส่งออกน้ำมันให้กับสหรัฐอเมริกา อังกฤษ แคนาดา ญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์โดยเด็ดขาด (Oil Embargo) รวมถึงประกาศลดกำลังการผลิตและประกาศขึ้นราคาน้ำมัน ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกถีบตัวสูงขึ้นถึงสี่เท่าตัว ในขณะนั้น สหรัฐอเมริกาก็ผลิตน้ำมันจนเต็มกำลังจนไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้แล้ว ทำให้เกิดสภาวะขาดแคลนน้ำมัน จนรัฐบาลของประเทศต่างๆ ต้องประกาศนโยบายการประหยัดพลังงาน
ในช่วงนั้น รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้เรียกร้องให้ชาวดัตช์ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและช่วยกันประหยัดพลังงาน มีการออกนโยบายต่างๆ เพื่อสนับสนุนการประหยัดพลังงาน เช่น Car Free Sunday รณรงค์ให้งดขับรถในวันอาทิตย์เพื่อประหยัดน้ำมัน
การปรับตัวในครั้งนั้น ส่งผลให้การขี่จักรยานกลายมาเป็นวิถีชีวิตของชาวดัตช์ ชาวดัตช์ขี่จักรยานไปทุกที่ ไปทำงาน ไปเรียน ไปช้อปปิ้ง ไปเที่ยว ทั้งขี่เดี่ยว ขี่แบบมีคนซ้อน ขี่ขนของ ขี่แบบติดรถพ่วง ขี่ด้วยชุดที่จะใส่ไปทำธุระนั้นๆ โดยกฎหมายไม่ได้บังคับให้ใส่ชุดหรือหมวกนิรภัย ยกเว้นว่าขี่จักรยานในสนามแข่งหรือขี่ขึ้นภูเขา เนื่องจากสหภาพนักขี่จักรยาน (Feitsersbond) ลงความเห็นว่าการใส่หมวกนิรภัยขณะขี่ในชีวิตประจำวันจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนขี่มากกว่า ถึงแม้ว่าจะไม่บังคับให้สวมหมวกนิรภัย แต่กฎหมายบังคับให้จักรยานทุกคันต้องติดไฟ เนื่องจากสภาพอากาศที่มืดครึ้มตลอดทั้งปี
ปัจจุบัน เนเธอร์แลนด์ มีเส้นทางจักรยานระยะทางยาว 35,000 กิโลเมตร เฉพาะในกรุงอัมสเตอร์ดัม มีทางจักรยาน 400 กิโลเมตร การสัญจรไปมาในกรุงอัมสเตอร์ดัมกว่า 40% ใช้จักรยาน ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเห็นจุดจอดจักรยานอยู่ทั่วไป ทั้งในสถานีรถไฟ หน้าโรงเรียน อาคารหรือร้านค้าต่างๆ โดยจะต้องล็อคจักรยานในจุดจอดที่จัดไว้ มิฉะนั้นจักรยานจะถูกยึดและต้องเสียค่าปรับ 25 ยูโร (ประมาณ 953 บาท) ถึงจะได้คืน
แม้จะมีกฎระเบียบและมีเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำหน้าที่ดูแลจักรยานโดยเฉพาะ แต่ด้วยจำนวนจักรยานที่มีจำนวนมากกว่า 16 ล้านคัน ทำให้ปัญหาการขโมยจักรยานยังคงเป็นปัญหาใหญ่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ตามสถิติในแต่ละปี พบว่า จักรยาน 1 ใน 5 คันจะถูกขโมยโดยคนว่างงานหรือติดยาเสพติด ซึ่งจะขโมยจักรยานไปขายให้กับร้านขายจักรยานมือสอง จึงมีการรณรงค์ให้ล็อคจักรยานและจอดจักรยานตามจุดจอด
ส่วนยอดขายจักรยานในเนเธอร์แลนด์ ข้อมูลจากเว็บไซต์ Bike Euro ระบุว่า ในปี 2560 มียอดขายจักรยานรวมทั้งสิ้น 957,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 29,000 คัน โดยยอดขายจักรยานไฟฟ้าเติบโตถึง 8.7% มียอดขายอยู่ที่ 294,000 คัน ส่วนแบ่งการตลาดของจักรยานไฟฟ้าคิดเป็น 31% ของมูลค่าตลาดจักรยานที่อยู่ที่ 976 ล้านยูโร หรือกว่า 37,000 ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.hollandcyclingroutes.com/
http://www.bbc.com/news/magazine-23587916
https://www.iamexpat.nl/lifestyle/cycling-netherlands
http://www.thaivi.org/วิกฤตปี-1973/
http://top10hell.com/top-10-countries-with-most-bicycles-per-capita/
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS