{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
THEเผยงบไตรมาสแรกพลิกมีกำไรสุทธิ 349 ล้านบาท หลังราคาขายเหล็กโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 32% คาดQ2/64 ยังแรง มีออเดอร์รอส่งมอบเพียบ มั่นใจทั้งปีมีโอกาสนิวไฮ จ่ายปันผลระหว่างกาล 0.20 บาท
นายบุญชัย จิระพงษ์ตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะสตีล จำกัด (มหาชน) หรือTHE เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาสแรกของปี 2564 เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีรายได้จากการขาย 3,202 ล้านบาท เติบโต 85% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และพลิกมีกำไรสุทธิ 349.61 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 160.72 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 317%
ซึ่งปัจจัยหลักผลักดันให้ผลประกอบการของบริษัทฯ พลิกมีผลกำไรเนื่องจากประเทศจีนได้ปรับลดกำลังการผลิตเหล็กลง ขณะที่การนำเข้าวัตถุดิบเหล็กจากต่างประเทศลดลง เนื่องจากการขนส่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนเกิดภาวะปริมาณเหล็กในประเทศขาดแคลน สถานการณ์ดังกล่าวกระทบให้ราคาเหล็กในตลาดโลกและราคาขายเหล็กในประเทศปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาขายโดยเฉลี่ยของเหล็กม้วนดำซึ่งเป็นสินค้าหลักของบริษัทฯ ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 30 บาทต่อกิโลกรัม เทียบจากราคาขายเฉลี่ยในปี 2563 อยู่ที่ 18-19 บาทต่อกิโลกรัม และทำให้ราคาขายเหล็กโดยเฉลี่ยของบริษัทฯ ในไตรมาสแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 32%
“บริษัทฯติดตามสถานการณ์ราคาเหล็กในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด และพบว่าราคาขายเหล็กโดยเฉลี่ย ในไตรมาส 2 ของปี 2564 นี้ ยังคงทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่องจากไตรมาสแรก และพบว่ามียอดคำสั่งซื้อเหล็กคงค้างและรอส่งมอบเพื่อรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 2 นี้ ไม่น้อยกว่า 1 พันล้านบาท ทำให้มีความเชื่อมั่นในผลประกอบการสำหรับงวดปี 2564 นี้จะเติบโตอย่างโดดเด่นและมีนัยสำคัญ”นายบุญชัยกล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เดอะสตีล กล่าวอีกว่า ในปี 2564 ผลประกอบการในงวดปี 2564 จะพลิกกลับมามีผลกำไรสุทธิ คาดว่าจะมีรายได้จากการขายราว 13,000 ล้าน และจะมีโอกาสสร้างสถิติสูงสุด(New High) พิจารณาได้จากงบไตรมาสแรกเพียงไตรมาสเดียว มีผลกำไรสุทธิถึง 349.41 ล้านบาท มากกว่าผลประกอบการย้อนหลังในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยปี 2563 มีผลขาดทุนสุทธิ 130 ล้านบาท ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 215.51 ล้านบาท และปี 2561 มีผลขาดทุนสุทธิ 100 ล้านบาทนอกจากนี้ ประเมินว่าสถานการณ์ราคาเหล็กได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว เนื่องจากประเทศจีนไม่สามารถให้ส่วนลดพิเศษทางการค้า(Rebate) สินค้าเหล็ก ภายหลังได้รับแรงกดดันทางการค้าจากประชาคมโลก
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลประกอบการงวดไตรมาส 1ของปี 2564 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล(Record date) วันที่ 28 พฤษภาคม 2564 กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) วันที่ 27 พฤษภาคม 2564 และกำหนดจ่ายในวันที่ 10 มิถุนายน 2564
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS