นิปปอนเพนต์ ลงนาม พนัส แอสเซมบลีย์ เป็นผลิตภัณฑ์สีพ่นหลักครบวงจร

บริษัท นิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย นายประพันธ์ ศิริโชติดำรงค์ ประธานบริษัท และนายนพดลศรี สินรุ่งเรือง ผู้จัดการทั่วไปหน่วยธุรกิจสีพ่นรถยนต์ ร่วมลงนามกับ บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด นายพนัส วัฒนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโดยในสัญญาร่วมกันใช้ผลิตภัณฑ์สี Nippon Ultima Low VOCs เพื่อเป็น ผลิตภัณฑ์สีพ่นหลักครบวงจรบน 2 ไลน์ผลิตใหม่ ระยะเวลา 5 ปี

นายประพันธ์ ศิริโชติดำรงค์ ประธานบริษัท บริษัท นิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) เปิดเผย ภายหลังพิธีลงนามในสัญญา ว่า นิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายสีรายใหญ่ของประเทศ ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด ที่เป็นผู้นำของธุรกิจประกอบรถเพื่อการพาณิชย์ในประเทศไทย นำผลิตภัณฑ์ Nippon Ultima Low VOCsไปเป็นผลิตภัณฑ์อย่างครบวงจร (สีโป๊ว สีพ่นใต้ท้องรถ สีพื้น และสีจริง) ในกระบวนการผลิตที่เปิดขึ้นใหม่ 2 ไลน์ ซึ่งทั้งสองบริษัทได้พัฒนานวัตกรรมสินค้าและกระบวนการทำงานร่วมกัน

โดยบริษัทนำผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้รับการพัฒนาด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยซึ่งจะเป็นสีประเภทสารประกอบอินทรีย์ระเหยต่ำ หรือ Low VOCs (Volatile organic Compounds) ซึ่งมีปริมาณสารระเหยต่ำ เนื้อสีมีคุณสมบัติการยึดเกาะโลหะได้ดี ทนทานต่อการใช้งานหนัก และทนต่อสภาวะอากาศ รักษาสภาพสีให้คงอยู่ได้ยาวนาน เมื่อนำมาใช้งานร่วมกับระบบเทคโนโลยีปืนพ่นไฟฟ้า (Electrostatic Spray Gun) จะสามารถลดความสิ้นเปลืองของสีได้ดี ที่สำคัญยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและมีความปลอดภัยสูงต่อผู้ใช้งานอีกด้วย

ประธานบริษัท บริษัท นิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสัญญาดังกล่าวจะเป็นการร่วมลงทุน (Co-investment) ในส่วนเครื่องมือและผลิตภัณฑ์การพ่นสีทุกขั้นตอนในไลน์ผลิต มูลค่าของสัญญา 180 ล้านบาท จะช่วยสนับสนุนภาพรวมของบริษัทให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้


นายพนัส วัฒนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด กล่าวว่า บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด เป็นผู้ผลิตรถรายใหญ่ ในแต่ละปีมีความต้องการการใช้ผลิตภัณฑ์สีจำนวนมาก โดยเฉพาะการที่บริษัทได้เปิดไลน์การผลิตขึ้นมาใหม่อีก 2 ไลน์ ทำให้ความต้องการยิ่งเพิ่มสูงขึ้น และได้ตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์สีพ่นของนิปปอนต์เพนต์ มาเป็นหลักในการผลิต เนื่องจากเล็งเห็นถึงมาตรฐานที่ได้ระดับโลก มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย อีกทั้งยังช่วยรักษาสภาพสิ่งแวดล้อม ตลอดจนมีความปลอดภัยต่อสุขภาพของพนักงานอีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยต้นทุนการผลิตลงไปได้ เพราะปริมาณการใช้สีจะมีความสิ้นเปลืองน้อยลง

สำหรับภาพรวมของพนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด คาดว่าแนวโน้มจะดีขึ้น ตามภาพรวมอุตสากรรมรถยนต์ที่มีการปรับตัวพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา เนื่องจาดสถานการณ์โควิด-19 ที่ ทุกๆ อุตสหกรรมก็อาจจะได้รับผลกระทบเหมือนกันไม่มากก็น้อย ส่วนทางพนัสฯก็ได้มีการปรับตัวอยู่ตลอดเพื่อรองรับให้ทุกสถานการณ์ ซึ่งตอนนี้ สถานการณ์เริ่มดีขึ้น ภาพรวมธุรกิจก็เริ่มปรับตัวดีขึ้นตามมา ทั้งนี้ ปีนี้ เราได้ตั้งเป้านโยบายเรื่องการ Go Green เพราะนอกจากที่เราเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมแล้ว เรายังตั้งเป้าการเป็นผู้นำทางด้าน Greennovation อีกด้วย เรามีความมุ่งมั่น ในการธุรกิจแบบยั่งยืน ด้วยการรักษาสิ่งแวดล้อม ให้คงอยู่ตลอดไป คุณพนัส กล่าว


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment