ม.อ.โชว์ระบบคัดกรอง COVID-19 อัจฉริยะด้านทันตกรรม

ม.อ.โชว์ระบบคัดกรอง COVID-19 อัจฉริยะด้านทันตกรรม ประสิทธิภาพสุดเจ๋ง หนุนเจ้าหน้าที่ทำงานสะดวก ปลอดภัย ลดเสี่ยงติดเชื้อ ประเดิม ที่ รพ.ทันตกรรม

รศ.ดร.ทพญ. ชิดชนก ลีธนะกุล คณบดี คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยคณะทันตแพทยศาสตร์ ได้พัฒนาระบบการตรวจคัดกรองอัจฉริยะก่อนการรักษาด้านทันตกรรม (Smart Screening COVID-19 for Dental Patients) โดยมีกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นผู้ให้การสนับสนุนในครั้งนี้ ซึ่งวัตถุประสงค์การพัฒนาเพื่อให้ประชาชนที่เข้ามารับบริการได้รับความสะดวก รวดเร็ว มีความปลอดภัย และที่สำคัญลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทั้งจากผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการ รวมทั้งบุคลากรทางแพทย์ และนักศึกษา

ล่าสุดโรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นำระบบการตรวจคัดกรองอัจฉริยะก่อนการรักษาด้านทันตกรรม เปิดบริการอย่างเป็นทางการแล้ว เนื่องจากโรงพยาบาล ถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงการแพร่ระบาดโรค COVID-19 ค่อนข้างสูง โดยปัจจุบันมีผู้ป่วยที่เข้ามารักษาทันตกรรมทั่วไปและเฉพาะทาง รวมทั้งรับส่งต่อผู้ป่วยที่มีความยากและซับซ้อนจากโรงพยาบาลต่างๆ ภาคใต้ เช่น ผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ ที่เข้ามารักษาทั้งในเวลาราชการและนอกราชการโดยเฉลี่ย 300 คนต่อวัน และยังเป็นสถาบันฝึกอบรมสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี และบัณฑิตศึกษา

ทั้งนี้การตรวจคัดกรองผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ถือว่าเป็นมาตรการที่สำคัญสำหรับโรงพยาบาล ก่อนที่จะรับผู้ป่วยเข้ารับบริการทันตกรรมทุกครั้ง เพื่อพยายามแยกผู้ที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด โดยระบบการตรวจคัดกรองอัจฉริยะก่อนการรักษาด้านทันตกรรม มีประสิทธิภาพในการตรวจคัดกรองประวัติเสี่ยง ตั้งแต่ระบบคัดกรองอุณหภูมิร่างกายทั้งผู้ป่วยและผู้ปฏิบัติงาน นอกจากนี้ยังมีระบบทำการลงทะเบียนโดยอัตโนมัติ (kiosk) หรือโทรศัพท์ (mobile application) พร้อมกับมีระบบแจ้งคิวการรับบริการ เพื่อช่วยลดโอกาสสัมผัสระหว่างบุคคล ลดความแออัดในพื้นที่รอรับบริการ

สำหรับการพัฒนาระบบการตรวจคัดกรองอัจฉริยะ เป็นหนึ่งในการมุ่งขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ของคณะทันตแพทยศาสตร์ ม.อ. ที่ก้าวสู่การเป็นโรงเรียนทันตแพทย์คุณภาพ เพื่อประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ ซึ่งที่ผ่านมาระบบการคัดกรองผู้ป่วยจะเป็นการซักประวัติและประเมินความเสี่ยง พร้อมกับตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ต้องใช้เจ้าหน้าที่ประจำจุดคัดกรอง 8 คนต่อช่วงเวลา และใช้เวลาโดยเฉลี่ย 10 นาที การพัฒนาระบบดังกล่าวช่วยลดระยะเวลาทำงานและลดการสูญเสียค่าใช้จ่ายของประเทศไทยในกรณีที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น โดย ม.อ.มีความพร้อมนำระบบคัดกรองอัจฉริยะขยายผลไปสู่การใช้งานกับแผนกอื่นๆ ภายในโรงพยาบาลต่อไป


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment