{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
กลุ่มบริษัทเอไอเอ รายงานผลประกอบการที่ปี 2563 มีกำไร เติบโต 5% มูลค่าธุรกิจใหม่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15% ใน 2 เดือนแรกของปี 2564
นายหลี่ หยวน ชยอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทเอไอเอรยงานผลประกอบการของกลุ่มบริษัทเอไอเอ สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 โดยอัตราการเติบโตคิดจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่
เอไอเอ มีกรมธรรม์ที่มีผลบังคับขนาดใหญ่และกำลังเติบโตด้วยแหล่งรายได้ที่สม่ำเสมอและมีคุณภาพสูง ซึ่งสนับสนุนให้กำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี (OPAT) เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 และเงินปันผลประจำปีสูงขึ้นร้อยละ 7.5 หรือคิดเป็นมูลค่า 100.30 เซ็นต์ฮ่องกงต่อหุ้น
สำหรับตลอดทั้งปี 2563 มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) คิดเป็น 2,765 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 33 ซึ่งสะท้อนถึงความท้าทายของการดำเนินธุรกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ดี ยอดขายกลับมามีความเคลื่อนไหวหลังจากมาตรการโควิด-19 มีการผ่อนคลาย ส่งผลให้มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เพิ่งสูงขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบแบบปีต่อปีใน 2 เดือนแรกของปี 2564
ผลประกอบการทางการเงินของกลุ่มบริษัทเอไอเอ ยังคงมีความแข็งแกร่งและฟื้นตัวกลับเข้าสู่สภาพเดิม ดังจะเห็นได้จาก Local Capital Summation Method (LCSM) ของกลุ่มบริษัท ซึ่งมีอัตราส่วนถึงร้อยละ 374(1)
โดยกลุ่มบริษัทเอไอเอรายงานการเติบโตที่แข็งแกร่งอีกครั้ง แม้ว่าจะมีเงื่อนไขทางเศรษฐศาสตร์มหภาคที่ไม่คาดคิดมาก่อน รวมถึงความท้าทายในการดำเนินธุรกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ดี ขณะที่มูลค่าธุรกิจใหม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม แต่เรายังมีการเติบโตในตัวชี้วัดด้านการเงินสำคัญอื่นๆ นอกจากนี้ ยอดขายได้กลับมามีความเคลื่อนไหวหลังจากมีการผ่อนปรนมาตรการ และเรามีมูลค่าธุรกิจใหม่ที่เติบโตขึ้นเมื่อเทียบแบบปีต่อปีในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2564 ทำให้สถานะทางการเงินของกลุ่มบริษัทเอไอเอยังคงแข็งแกร่ง อีกทั้งเรายังได้เพิ่มเงินปันผลประจำปี
“ในปี 2563 จะเป็นปีที่พิเศษและท้าทาย แต่กลับทำให้ผมมองเห็นแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตของเอไอเอ ปัจจุบัน ผู้บริโภคชาวเอเชียมีความตระหนักถึงความจำเป็นในการสร้างความมั่นคงทางการเงินและการคุ้มครองดูแลสุขภาพของคนในครอบครัวอย่างมาก ซึ่งทำให้เป้าหมายและคุณค่าของบริษัทของเรามีความสำคัญมากยิ่งขึ้น และในปี 2563 เราได้พัฒนาและนำกลยุทธ์ใหม่มาปรับใช้ ซึ่งจะปรับเปลี่ยนเอไอเอ รวมถึงจุดยืนของเราในการกระตุ้นการเติบโตทางโครงสร้างของธุรกิจประกันชีวิตทั่วทั้งเอเชีย ผมมีความมั่นใจว่าเอไอเอได้อยู่ในธุรกิจที่ถูกต้อง ในภูมิภาคที่เหมาะสม และในช่วงเวลาที่ถูก และเราจะยังคงเดินหน้าสนับสนุนให้ผู้คนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น (Healthier, Longer, Better, Lives)” นายหลี่ หยวน ชยอง กล่าว
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS