GPSCโชว์กำไร ปี 63 โต 85% พร้อมปันผลเพิ่ม

GPSCโชว์กำไร ปี 63 โต 85% พร้อมปันผลเพิ่ม ตั้งเป้าปี 64 เดินหน้า New S-Curve พร้อมเปิด รง.ผลิตหน่วยกักเก็บพลังงานในไตรมาส 2

นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยว่า ในปี 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ จำนวน 7,508 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2562 จำนวน 3,447 ล้านบาท หรือร้อยละ 85 เนื่องมาจากการรับรู้ผลประกอบการจาก GLOW เต็มปี 2563 ประกอบกับต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่ปรับตัวลดลงตามสภาวะตลาด ทำให้ผลประกอบการของบริษัท โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) มี margin จากการขายไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ ลดลงจากการปรับโครงสร้างเงินทุน โดยได้ดำเนินการเพิ่มทุนแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2562 และปรับโครงสร้างเงินกู้ยืมจากการเข้าซื้อ GLOW แล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2563 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้อื่นเพิ่มขึ้นจากเงินปันผลรับ ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและกิจการร่วมค้า รวมถึงการรับรู้มูลค่า Synergy จากการควบรวม GLOW จำนวน 701 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าและโครงข่ายร่วมกัน

สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 4/2563 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ จำนวน 1,813 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากราคาก๊าซธรรมชาติและถ่านหินลดลง ประกอบกับต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2563 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ ลดลง 43% สาเหตุหลักจากกำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้า IPP ลดลง เนื่องจากรายได้ค่าความพร้อมจ่ายส่วนที่อ้างอิงกับดอลลาร์สหรัฐฯ (USD-linked AP) ลดลงจากการแข็งค่าของค่าเงินบาท อีกทั้ง โรงไฟฟ้าโกลว์ไอพีพีเดินเครื่องครบชั่วโมง Contracted Available Hours (CAH) ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม 2563 นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายการซ่อมบำรุงตามแผนงานของโรงไฟฟ้าโกลว์ เอสพีพี 3 และ 11 และการหยุดเดินเครื่องของโรงไฟฟ้าโกล์ว พลังงาน ระยะที่ 5

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้เสนอจ่ายเงินปันผลประจำปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 1.50 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละประมาณ 56 ของกำไรสุทธิของงบการเงินรวม แบ่งเป็นการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งบริษัทฯ ได้จ่ายไปแล้วเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2563 จึงยังคงเหลือส่วนเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งหลังของปี 2563 ที่จะต้องจ่ายในอัตราหุ้นละ 1.00 บาท โดยบริษัทฯ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 4 มีนาคม 2564 (หรือ XD วันที่ 3 มีนาคม 2564) และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 21 เมษายน 2563 หลังจากได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 แล้ว



นายวรวัฒน์ กล่าวถึงกลยุทธ์ทางธุรกิจในปี 2564 ว่า บริษัทมุ่งเน้นขยายการลงทุนทางด้านนวัตกรรมพลังงาน โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจ New S Curve ในฐานะแกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้าของกลุ่ม ปตท. เพื่อให้สามารถรองรับการการเปลี่ยนแปลงธุรกิจพลังงานไฟฟ้าในอนาคต สะท้อนจากความสำเร็จในการผลิตแบตเตอรี่ G-Cell ด้วยเทคโนโลยี Semi-Solid จากบริษัท 24M Technologies เป็นเซลล์แรกของประเทศไทยเมื่อปลายปี 2563 ที่ผ่านมา โดยคาดว่าโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงานขนาดกำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ต่อชั่วโมง จะพร้อมดำเนินการผลิตภายในไตรมาส 2 ของปี 2564 นี้


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment