WeWork ชูโซลูชั่นเวิร์กสเปซหนุนธุรกิจบริหารต้นทุนตอบโจทย์การทำงานยุคโควิด-19

คุณอลิซาเบธ ลอว์ส ฟูลเลอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและองค์กร WeWork เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า WeWork นำเสนอ 2 บริการใหม่ในปีนี้ 1. WeWork All Access: บริการที่ให้สมาชิกสามารถเข้าใช้ WeWork สาขาต่างๆ ได้ทั่วโลกด้วยการจองล่วงหน้า เปิดให้บริการแล้ว การมีสาขาที่หลากหลายของ WeWork ช่วยให้สมาชิกสามารถเลือกเข้าทำงานในสาขาใกล้บ้านได้ โดย WeWork ทั้ง 4 สาขาในประเทศไทยต่างตั้งอยู่ที่อาคารเกรด A ชั้นนำในย่านธุรกิจสำคัญที่สามารถเดินทางได้สะดวกคือ อาคารเอเชีย เซ็นเตอร์ สาทร, อาคาร ทีวัน ทองหล่อ, สปริง ทาวเวอร์ พญาไท และเดอะ ปาร์ค พระราม 4

2. WeWork On Demand: บริการสำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่สมาชิก โดยให้สิทธิ์ในการจองพื้นที่ทำงานหรือห้องประชุมที่ WeWork เป็นรายชั่วโมงหรือรายวัน โดยจะเปิดให้บริการภายในไตรมาสที่ 1/2564 นี้

ทั้งนี้การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก หลากหลายธุรกิจหรือองค์กรที่มองการณ์ไกลต่างให้ความสำคัญกับการปรับกลยุทธ์เวิร์กสเปซหรือพื้นที่ทำงาน รวมถึงเพิ่มความยืดหยุ่นและความคล่องตัวให้กับพื้นที่ทำงานตามความต้องการของพนักงานที่เปลี่ยนไป WeWork ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านการให้บริการพื้นที่ที่มีความยืดหยุ่น ตอบโจทย์บริษัททุกขนาดที่ต้องการพื้นที่ทำงาน ได้ใช้ความเชี่ยวชาญในการช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19

โดย WeWork มองเห็นเทรนด์สำคัญที่เกิดขึ้นดังนี้

1. บางธุรกิจมีการเติบโตสูง: บางธุรกิจ เช่น การศึกษาและเภสัชกรรม ต่างมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงโควิด-19 ทำให้บริษัทต้องขยายพื้นที่ทำงานเพื่อรองรับกำลังคนที่มากขึ้น อาทิ โกลบิช อคาเดเมีย (Globish Academia) แพลตฟอร์มเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์สัญชาติไทยที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ มีการเติบโตขึ้นหลายเท่าในปีที่ผ่านมา ซึ่งหมายถึงความต้องการในการขยายพื้นที่ทำงานอย่างรวดเร็ว WeWork สปริง ทาวเวอร์ ได้ตอบโจทย์ความต้องการนี้และช่วยให้โกลบิช อคาเดเมีย สามารถขยายพื้นที่ทำงานขนาดครึ่งชั้นได้ในเวลาที่ต้องการ

2. ธุรกิจมีการปรับตัวใหม่: บางธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงวิกฤตและหันมามุ่งสร้างความมั่นคง รวมถึงปรับลดขนาดของทีมงานและปรับเปลี่ยนพื้นที่การใช้งานตามความเหมาะสม ที่ทำงานที่มีความยืดหยุ่นจึงเป็นปัจจัยสำคัญ และที่ WeWork จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับบริษัทต่างๆ ว่าแม้จะมีการลดขนาดในตอนนี้ ก็ยังสามารถขยายธุรกิจต่อไปได้ในอนาคต



นอกจากนั้น WeWork เล็งเห็นว่าหลายบริษัทต่างให้ความสำคัญกับการบริหารกระแสเงินสดและความยืดหยุ่น ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้บรรลุประสิทธิภาพในการดำเนินงานตามเป้าหมายได้ ความยืดหยุ่นในเรื่องพื้นที่และเวลาจะเป็นตัวกำหนดกลยุทธ์พื้นที่ทำงานในอนาคต หลายบริษัทต่างตระหนักถึงความต้องการในเรื่องความยืดหยุ่น ปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน WeWork เล็งเห็นว่าหลายธุรกิจต้องการเปลี่ยนพื้นที่ทำงานใหม่และมองหาพื้นที่ทำงานแบบผสมผสานหรือไฮบริด (hybrid) การมีออฟฟิศและโต๊ะทำงานส่วนตัวจะไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป บริษัทที่มองการณ์ไกลจะมีความต้องการความยืดหยุ่นที่มากขึ้นที่สามารถตอบโจทย์ในเรื่องพื้นที่ เวลา และระบบการทำงาน โดยโมเดลพื้นที่ทำงานที่มีสำนักงานใหญ่และสาขาต่างๆ กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ เนื่องจากเป็นการเพิ่มทางเลือกให้พนักงานสามารถเลือกทำงานในสาขาใกล้บ้านอีกด้วย


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment