คลังปรับทัพ ขยับขุนพลชนศึกศก. แต่อย่าลืมเอาใจบอส

เมื่อนายสมชัย สัจจพงษ์ ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง หลังถูกสั่งโยกย้ายไปเป็นเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ ที่อ้างเหตุผลถึงความเหมาะสม แต่ไม่ถูกใจอดีตปลัด

คณะรัฐมนตรีประชุมกันวันที่ 17 เม.ย. 2561 แต่งตั้ง นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร ขึ้นเป็นปลัดกระทรวงการคลัง ตามที่กระทรวงการคลังได้เสนอ ท่ามกลางกระแสข่าวได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ แต่ไม่ได้เป็นปัญหา

ตามหลักแล้ว ก็คงไม่มีใครจะเหมาะสมมากกว่า เพราะนายประสงค์ ผ่านกรมภาษีมาแล้ว 2 กรม คือกรมสรรพากรและกรมศุลกากร ความอาวุโสก็สูงกว่าใคร ที่ผ่านมาการทำงานก็สร้างความพึงพอใจให้กับรัฐ เช่น เรื่องการตรวจสอบบัญชีนักการเมือง และยังไม่เคยมีข้อขัดแย้งกับฝ่ายบริหาร

เมื่อมาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง เริ่ม 1 พ.ค. 2561 ก็คงไม่น่าจะมีปัญหากับการสานต่อการทำงานร่วมกับฝ่ายการเมืองและดูแลหน่วยงานสังกัดกระทรวงการคลัง หากไม่มีอะไรผิดพลาด ปลัดกระทรวงการคลังคนใหม่ ก็จะอยู่จนเกษียณอายุราชการ เพราะเหลืออายุราชการประมาณ 1 ปี

ที่น่าสนใจก็คิอ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ได้รับการแต่งตั้งเป็น อธิบดีกรมสรรพากร ถือว่าก้าวกระโดด เพราะอาวุโสถือว่ายังไม่มากนัก

แต่ที่ผ่านมาก็สามารถสร้างผลงานได้เข้าตา มีความรู้ความสามารถรอบด้าน เคยผ่านงานด้านนโยบาย เคยดูเรื่องภาษีที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) มาก่อน ว่ากันว่าอนาคตของคนนี้ ก้าวไกลไปถึงตำแหน่งปลัดในอนาคต

          ยังมีอีก 2 ตำแหน่งสำคัญที่ได้รับการแต่งตั้งพร้อมกันครั้งนี้ คือ นาย    ประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ขึ้นเป็น ผู้อำนวยการ สคร. และนายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ไปดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.)

           สำหรับเป้าหมายการทำงานในภาพรวม ก็คือต้องช่วยกันหาแนวทางและมาตรการมาช่วยกันปลุกปล้ำเศรษฐกิจให้กลับมาเข้มแข็ง แนวทางก็คงไม่แตกต่างจากการดำเนินการในช่วงที่ผ่านมามากนัก

           ที่สำคัญก็คือ ต้องดูแลทิศทางลมกับการประสานงานการทำงานกับฝ่ายการเมืองด้วย เพราะหากปฏิบัติหน้าที่ได้ดี แต่ถ้าไม่ถูกใจ ก็อาจต้องไปก่อนเวลา เหมือนอดีตปลัดสมชัย สัจจพงษ์ เจ้าของวาทะ “เห็บสยาม” ที่กระแทกใจบางคน