ทีเอ็มบีและธนชาต เดินหน้ามาตรการช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อรายย่อย สู้ภัยโควิด-19

ทีเอ็มบีและธนชาตเดินหน้าให้ความช่วยเหลือด้านการเงินเพิ่มเติมแก่ลูกค้าสินเชื่อรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งส่งผลให้เกิดผลกระทบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยได้ขยายระยะเวลามาตรการตั้งหลักให้ความช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อรายย่อยของทีเอ็มบีและธนชาต ทั้งบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อบ้าน สินเชื่อบุคคล และสินเชื่อรถยนต์ธนชาตDRIVE เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจให้สามารถตั้งหลัก ผ่านสถานการณ์วิกฤต และเป็นโอกาสในการสร้างรากฐานชีวิตทางการเงินที่ดี หรือ Financial Well-being ต่อไป โดยมีมาตรการดังนี้

สำหรับลูกค้าบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด

ปรับลดอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำ ทั้งลูกค้าบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด ทุกรายโดยไม่ต้องติดต่อธนาคาร

บัตรเครดิต ปรับอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำจาก 10% เป็น 5% ในปี 2563-2564 เป็น 8% ในปี 2565 และเป็น 10% ในปี 2566 เป็นต้นไป

บัตรกดเงินสด (ทีเอ็มบี) ปรับอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำจาก 5% เป็น 3% ในปี 2563-2566

สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบโดยตรง สามารถติดต่อลงทะเบียนเพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม

บัตรเครดิตลดดอกเบี้ยเหลือ 12% พร้อมผ่อนชำระยอดค้างได้สูงสุด 48 เดือน

บัตรกดเงินสด (ธนชาต) ลดดอกเบี้ยเหลือ 22% พร้อมผ่อนชำระยอดค้างได้สูงสุด 60 เดือน

สินเชื่อบ้าน

พักชำระเงินต้น โดยยังคงชำระเฉพาะดอกเบี้ย นาน 6 เดือน หรือ ลดยอดผ่อนชำระเหลือ 70% นาน 6 เดือน หรือ พักชำระค่างวดทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย นาน 3 เดือน

สินเชื่อบุคคล

ลดยอดผ่อนชำระเหลือ 70% นาน 6 เดือน และลดอัตราดอกเบี้ยเหลือไม่เกิน 22%

สินเชื่อรถยนต์ธนชาตDRIVE

สำหรับสินเชื่อรถยนต์ใหม่ รถยนต์ใช้แล้ว และรถแลกเงิน ลดค่างวดโดยขยายระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ หรือพักชำระค่างวดนาน 3 เดือน สำหรับสินเชื่อเล่มแลกเงิน ดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 22% และลดค่างวดผ่อนชำระต่อเดือนสูงสุด 30% ไม่เกิน 6 เดือน

ทั้งนี้ ลูกค้าที่มีความสนใจ สามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมและลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการได้ทางเว็บไซต์ www.tmbbank.com/loan-covid19 ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 มิถุนายน 2564 โดยเงื่อนไขและการพิจารณาอนุมัติเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment