{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้เดินหน้าผลักดันและส่งเสริมการส่งออกสินค้าฮาลาลอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งในปีงบประมาณ 2564 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้มีแผนงานสำคัญในการส่งเสริมสินค้าฮาลาล อาทิ การอบรมให้ความรู้ผู้ประกอบการสินค้าฮาลาลเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ตลาดเป้าหมาย การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอาหารฮาลาล 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อการค้าระหว่างประเทศ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าอาหารฮาลาลในห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์สโตร์ในตลาดภูมิภาคตะวันออกกลาง การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหาร Gulfood 2021 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 21 - 25 กุมภาพันธ์ 2564 รวมทั้งการพัฒนาฐานข้อมูลผู้ประกอบการฮาลาล และการส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าอาหารฮาลาลไทยในงานแสดงสินค้า THAIFEX –ANUGA ASIA และตลาดต่างประเทศ อาทิ กาตาร์ โอมาน จีน อาเซียนและอินเดียเพื่อยกระดับความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น
กรมฯยังมีการดำเนินงานที่สำคัญ เช่น การจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า (Halal Hub) การจัดตั้งสถาบันฮาลาล (Halal Academy) การพัฒนาฐานข้อมูลฮาลาล (Thailand Halal Big Data) และการส่งเสริมฐานข้อมูลวัตถุดิบฮาลาล (H Number) รวมทั้งระบบศูนย์ข้อมูลกลางการแลกเปลี่ยนทรัพยากรอิเล็กทรอนิกส์ด้านฮาลาล (System Protocol For Halal Electronic Resources Exchange หรือ SPHERE) รวมถึงแผนการที่มุ่งเจรจาการค้าในตลาดกลุ่ม OIC และ Non OIC เช่น จีน รวมถึงตลาดใหม่ๆ ที่ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในเอเชียกลาง เช่น สาธารณรัฐคาซัคสถาน ที่กำลังศึกษาและสำรวจเส้นทางขนส่ง
อีกทั้ง จากการหารือร่วมกับหน่วยงานศูนย์ฮาลาลขององค์การอาหารและยาซาอุดิอาระเบีย (Saudi Food and Drug Authority – SFDA) สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (The Central Islamic Committee of Thailand - CICOT) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันผลักดันการส่งออกสินค้าอาหารฮาลาลส่งออกเข้าสู่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นศูนย์กลางแห่งมาตรฐานฮาลาลนั้น มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก โดยเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2563 ทาง SFDA ได้อนุญาตให้สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยสามารถออกประกาศนียบัตรฮาลาลสำหรับการส่งเสริมสินค้าอาหารเข้าซาอุดิอาระเบียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงถือได้ว่าสินค้าไทยที่ได้รับเครื่องหมาย/ประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานฮาลาลจากสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยจะเป็นที่ยอมรับ (Mutual Recognition) ของ SFDA ซึ่งนับว่าเป็นก้าวสำคัญสู่การยอมรับในมาตรฐานสินค้าฮาลาลของไทย
นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสทางการค้าการส่งออกสินค้าฮาลาลไปยังกลุ่มตะวันออกกลาง (GCC) ที่เป็นตลาดขนาดใหญ่ประกอบด้วยจำนวนมุสลิมราว 396 ล้านคน (ร้อยละ 90 ของจำนวนประชากรทั้งหมดของกลุ่มประเทศ) โดยมีความต้องการในด้านสินค้าเกษตรและอาหารฮาลาลที่หลากหลาย รวมถึงอาหารแห้งและอาหารกระป๋อง พร้อมทั้งปลดล็อคการส่งออกสินค้าอาหารประเภทสัตว์ปีกแช่แข็ง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลอื่นๆ ของไทย จะทำให้สามารถส่งออกได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
สำหรับตลาดอาหารฮาลาล (Halal Food) ในปัจจุบันถือเป็นตลาดหลักที่ทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรมุสลิมโลกที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 1.6 พันล้านคน ในปี 2553 เป็น 2.8 พันล้านคนในปี 2593 ส่งผลให้ในอนาคตตลาดอาหารฮาลาลจะยิ่งเติบโตอย่างก้าวกระโดดในกลุ่มผู้บริโภคทั้งที่เป็นมุสลิมและไม่ใช่มุสลิม และจากข้อมูลของ Salaam Gateway สถาบันวิจัยด้านเศรษฐกิจโลกอิสลาม ระบุปี 2561 ตลาดอาหารฮาลาลมีมูลค่า 1,369 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น ร้อยละ 17 ของค่าใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มทั่วโลก และคาดว่าในปี 2567 ตลาดอาหารฮาลาลจะมีมูลค่าถึง 1,972 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเฉลี่ย (CAGR) ปีละร้อยละ 6.3 เลยทีเดียว โดยปัจจุบันประเทศไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารฮาลาลรายใหญ่เป็นอันดับที่ 11 ของโลก ในปี 2562 ก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไทยมีมูลค่าส่งออกถึง 35,037 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น ร้อยละ 2.44 ของมูลค่าตลาดอาหารฮาลาลโลก
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS