{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
นายธนะบุล มัทธุรนนท์ นายกสมาคมทีวีโฮมช้อปปิ้ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้งช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม – กันยายน 2563) มีอัตราการเติบโตเกือบ 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่าตลาดรวม 10,700 ล้านบาท สวนกระแสเศรษฐกิจชะลอตัว ปัจจัยการเติบโตมาจากพฤติกรรมของคนไทยที่ปรับเปลี่ยนสู่วิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 และช่วงล็อกดาวน์ ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาเลือกซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มทีวีโฮมช้อปปิ้งและแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีความสะดวกสบาย สามารถชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ มีบริการจัดส่งสินค้าถึงปลายทาง รับประกันคืนสินค้า และจำหน่ายสินค้าโดยผู้ประกอบการที่มีความน่าเชื่อถือและมีมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจ จากเดิมที่เคยชินกับการเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออฟไลน์หรือร้านค้าปลีกสมัยใหม่ นอกจากนี้ยังทำให้คนไทยเริ่มเห็นความสำคัญของการใช้จ่ายในรูปแบบ Cashless Society (สังคมไร้เงินสด) สนับสนุนประเทศไทยก้าวสู่ยุคดิจิทัล
สำหรับธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้งและอี-คอมเมิร์ซ มีศักยภาพและโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยคาดว่าภาพรวมในปีนี้น่าจะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมาเกือบ 20% เนื่องจากภายหลังเกิดโรคระบาด Covid-19 แพลตฟอร์มดังกล่าวสามารถขยายฐานลูกค้ามากขึ้นและเชื่อว่าจะเป็นลูกค้าประจำที่มีการซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้งมีจุดเด่นด้านการนำเสนอสินค้าผ่านแพลตฟอร์มหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ ช่องทางทีวีดิจิทัลที่ออนแอร์ในช่วงเวลาโฆษณา ช่องทางทีวีดาวเทียมที่เป็นรูปแบบช่องโฮมช้อปปิ้ง 24 ชั่วโมงและช่องทางออนไลน์ จึงสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุมและสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อให้แก่ผู้ซื้อ (Seamless Shopping Experience) นอกจากนี้ ยังมีจุดแข็งด้านการสร้างคอนเทนต์นำเสนอผลิตภัณฑ์และความถี่การออกอากาศ รวมถึงการนำเสนอโปรโมชั่นที่น่าสนใจ จึงทำให้ทีวีโฮมช้อปปิ้งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มขายสินค้าที่ทรงพลัง สามารถกระตุ้นผู้บริโภคให้ตัดสินใจซื้อสินค้าแบบเรียลไทม์
นายกสมาคมทีวีโฮมช้อปปิ้ง (ประเทศไทย) กล่าวอีกว่า ทีวีโฮมช้อปปิ้ง นับว่าเป็นช่องทางการจำหน่ายที่มีค่าใช้จ่ายและต้นทุนการบริหารจัดการต่ำกว่าเมื่อเทียบกับช่องทางร้านค้าปลีกสมัยใหม่ เนื่องจากไม่จัดเก็บค่าแรกเข้าผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่จำเป็นต้องสต๊อกสินค้าปริมาณมาก ดังนั้นผู้ประกอบการจึงสามารถบริหารจัดการทางการเงินได้อย่างคล่องตัว สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลก นอกจากนี้ ทีวีโฮมช้อปปิ้งเป็นแพลตฟอร์มที่ทำหน้าที่เป็นสื่อและโฆษณาประชาสัมพันธ์ในตนเอง สามารถนำเสนอสินค้าและทำตลาดตรงกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Marketing) พร้อมกับการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพภายใต้ กลยุทธ์ “Sale & Marketing” ที่สามารถดึงดูดและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อแบบเรียลไทม์
ขณะเดียวกันธุรกิจทีวีช้อปปิ้งมีฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ ทั้งกลุ่ม Baby Boomer ที่เกิดในช่วงปี 2489 – 2507 และกลุ่ม Gen X ที่เกิดในช่วงปี 2508 – 2522 ซึ่งยังมีพฤติกรรมรับชมทีวีเป็นสื่อหลัก และอยู่ในช่วงเรียนรู้การสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ จึงเป็นโอกาสและทางรอดของผู้ประกอบการที่ต้องการต่อยอดธุรกิจ โดยการผสานช่องทางออฟไลน์มาสู่ออนไลน์หรือทีวีโฮมช้อปปิ้ง (Omni Channel) เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในทุกช่องทาง
ส่วนเทรนด์สินค้าบนทีวีโฮมช้อปปิ้งพบว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร อาหารเสริม เครื่องครัวและอุปกรณ์ออกกำลังกาย เป็นสินค้าที่มาแรง เนื่องจากโรค Covid-19 ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพ ขณะที่สินค้าที่จะเป็นเมกะเทรนด์ ได้แก่ สินค้านวัตกรรมที่เหมาะกับผู้สูงอายุ สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Environmental Friendly Products) ที่คาดว่าจะมีบทบาทต่อการดำเนินธุรกิจมากขึ้น นอกจากนี้การทำตลาดผ่านทางช่องทางทีวีโฮมช้อปปิ้ง มีการพัฒนากลยุทธ์การตลาดใหม่ เช่น ประเทศเกาหลีใต้ที่จัดแสดงแฟชั่นโชว์แบบไลฟ์สตรีม (Digital Live Fashion Show) คลิปวิดีโอแบบสั้น และการถ่ายทอดสดวิดีโอสตรีมมิ่งและแชทโต้ตอบกับผู้ชม ซึ่งถือเป็นสีสันใหม่ๆ อีกด้วย
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS