ศุภาลัยเปิดคฤหาสน์หรู

ศุภาลัยเปิดคฤหาสน์หรูระดับลักซ์ชัวรี่แค่ 56 ยูนิต ภายใต้แบรนด์ ‘พรีมา วิลล่า ปิ่นเกล้า-พุทธมณฑล สาย 2’ มูลค่าโครงการกว่า 1,100 ล้านบาท เจาะกลุ่มพรีเมี่ยม

นางสาวธัญวรัตน์ ปัญญารัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาดและการขาย เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดโครงการใหม่ในทำเล ปิ่นเกล้า-พุทธมณฑล ซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพอีกหนึ่งทำเลของโซนกรุงเทพฯ ตะวันตก กับโครงการคฤหาสน์หรูใหม่ล่าสุด ‘ศุภาลัย พรีมา วิลล่า ปิ่นเกล้า-พุทธมณฑล สาย 2’ มูลค่าโครงการกว่า 1,100 ล้านบาท ภายใต้แนวคิด “The New Privacy” บนพื้นที่ 26 ไร่ พร้อมให้ความเป็นส่วนตัวแบบเอ็กซ์คลูซีฟ เพียง 56 ยูนิต รองรับยุค New Normal โครงการมาพร้อมคฤหาสน์หรูซีรีย์ใหม่ “ศุภมัณฑิรา” บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 417 ตร.ม. บนที่ดินขนาด 134 ตร.ว. 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 2 พื้นที่พักผ่อนส่วนตัว และ 3 ที่จอดรถ ทางเข้าบ้านมี Drop off ในร่ม เพื่อความสะดวกสบาย อีกทั้งภายในบ้านยังมีการออกแบบให้โปร่งโล่ง สามารถเชื่อมต่อแต่ละส่วนได้อย่างลงตัว และในส่วนของ ชั้น 2 ประกอบด้วย Master Bedroom พร้อมพื้นที่ห้องน้ำกว้างพิเศษ และ Walk-in Closet ในตัว โดยทุกพื้นที่ภายในบ้านได้สร้างสรรค์มาเพื่อรองรับการใช้ชีวิตของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง

ภายในโครงการยังมีพื้นที่สีเขียว สร้างความร่มรื่นแก่ผู้พักอาศัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดดเด่นด้วยทำเลศักยภาพโซนกรุงเทพฯ ตะวันตก รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน

โดยผู้สนใจร่วมสัมผัสประสบการณ์ที่อยู่อาศัยระดับพรีเมี่ยมโครงการ “ศุภาลัย พรีมา วิลล่า ปิ่นเกล้า-พุทธมณฑล สาย 2” ที่สร้างสรรค์และยกระดับการใช้ชีวิตอย่างแท้จริง ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร ได้ที่ https://www.supalai.com/reg/prima_sai2/ ทั้งนี้บริษัทมีมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 เพื่อเสริมความมั่นใจในการเข้าเยี่ยมชมโครงการ โดยคำนึงถึงสุขภาพอนามัย และความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสำคัญ ขอเชิญท่านที่สนใจโครงการจองแปลงสวยในโครงการสุดเอ็กซ์คลูซีฟก่อนใคร ในงาน Pre-Sales วันที่ 26-27 กันยายน นี้ ณ Sales Gallery สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 1720 หรือทาง Facebook : Supalai Society

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดอสังหาฯ ในช่วงหลังการฟื้นตัวของสถานการณ์โควิด-19 ที่ปัจจุบันมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการปฏิบัติตามมาตรการ Social Distancing ทำให้ผู้บริโภคคำนึงถึงความสำคัญของสุขอนามัย และความปลอดภัยในชีวิตส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับยอดขายโครงการแนวราบของบริษัทที่เติบโตไปในทิศทางที่ดี ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคนั้นมีอย่างต่อเนื่อง และส่วนหนึ่งมาจากการที่ผู้บริโภคมีความมั่นใจในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มาอย่างยาวนานกว่า 31 ปี ทำให้สามารถเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภค พร้อมคำนึงถึงรูปแบบ ที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ในการใช้ชีวิตมากที่สุด อาทิ นวัตกรรมแบบบ้านประหยัดพลังงาน ทั้งยังได้รับรองคุณภาพมาตรฐานระดับสากล ISO 9001 : 2015

สำหรับแผนการเปิดตัวโครงการแนวราบ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 นี้ เตรียมเปิดตัว โครงการใหม่ 10 โครงการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 9,000 ล้านบาท ซึ่งมีการปรับแผนการเปิดตัวโครงการ แนวราบในปีนี้ เป็น 27 โครงการ มูลค่ารวม 21,800 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแนวราบ โดยเตรียมจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในช่วงไตรมาสสุดท้าย ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถทำยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้