กำเนิดบาสเกตบอล (Basketball : History and Facts)

บาสเกตบอลหนึ่งในกีฬาที่มีคนให้ความสนใจมากที่สุดในโลก และมีผู้เล่นกีฬานี้มากกว่า 300 ล้านคนทั่วโลก โดยเริ่มเล่นเป็นครั้งแรกเมื่อ 127 ปีก่อน (21 ธันวาคม 2434)

ดร.เจมส์ ไนสมิท (James Naismith) อาจารย์พลศึกษาของโรงเรียนฝึกอบรมของสมาคมวายเอ็มซีเอ ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยสปริงฟิลด์ ในรัฐแมสซาชูเซตส์ คือ ผู้คิดค้นกีฬาบาสเกตบอล ซึ่งเขาต้องการให้เด็กนักเรียนมีกีฬาเล่นในร่มช่วงฤดูหนาว

โดยเกมส์แรกมีผู้เล่นทั้งหมด 18 คน แบ่งออกเป็น 2 ทีมๆ ละ 9 คน ใช้ลูกฟุตบอลเล่น และใช้ตะกร้าลูกพีชสองใบแขวนเป็นห่วงสูงจากพื้น 10 ฟิต มีการกำหนดกติกาการเล่น 13 ข้อที่กลายมาเป็นกติกาพื้นฐานในการเล่นบาสเกตบอลในปัจจุบัน

กีฬาบาสเกตบอลเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ปัจจุบัน มีการแข่งขันทัวร์นาเมนต์บาสเกตบอลในทุกระดับอายุ ตั้งแต่ระดับมัธยมปลาย มหาวิทยาลัย ซึ่งทุกโรงเรียนจะมีทีมบาสเกตบอลประจำโรงเรียน ไปจนถึงระดับลีกอาชีพ และมีแข่งทั้งประเภทชายและหญิง ซึ่งการแข่งขันที่เป็นที่รู้จักกันมากสุดคงหลีกไม่พ้นลีก NBA (National Basketball Association) ของสหรัฐอเมริกา

สำหรับลีกบาสเกตบอลที่เป็นที่รู้จักในระดับโลกนอกเหนือจากลีก NBA มีอยู่ 14 ลีก ตามความเห็นของนักวิเคราะห์บาสเกตบอลระดับวิทยาลัยและผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติของ ESPN เคเบิลทีวีกีฬาของอเมริกา คือ

- EuroLeague - EuroCup

- Spain's Liga ACB - Turkish Basketball Super League (BSL)

- Russia's VTB United League - Italy's Lega Basket Serie A (LBA)

- France's LNB Pro A - The Greek Basket League

- The Basketball Bundesliga (BBL) - Adriatic League (ABA)

- FIBA's Basketball Champions League (BCL) - Israeli Basketball Premier League

- Australia's National Basketball League (NBL) - Chinese Basketball Association (CBA)

การจัดอันดับนักบาส NBA ที่ดีที่สุดในโลกประจำฤดูกาลหน้า (2018-2019) ของ ESPN ในบทความนี้ขอพูดถึงแค่ 5 อันดับแรกเท่านั้น คือ

1. เลอบรอน เจมส์ (LeBron James) จากทีม Los Angeles Lakers

2. สตีเฟน เคอร์รี่ (Stephen Curry) จากทีม Golden State Warriors

3. เจมส์ ฮาร์เดน (James Harden) จากทีม Houston Rockets

4. เควิน ดูแรนท์ (Kevin Durant) จากทีม Golden State Warriors

5. ยานนิส อันเททูคุมโป (Giannis Antetokounmpo) จากทีม Milwaukee Bucks

ส่วนนักบาส NBA ที่มีค่าตัวแพงที่สุดประจำฤดูกาลหน้า (2018-2019) 5 อันดับแรก ข้อมูลอ้างอิงจาก Spotrac คือ

1. สตีเฟน เคอร์รี่ (Stephen Curry) กับค่าเหนื่อย 201 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,400 ล้านบาท) สัญญา 5 ปี เฉลี่ยรายได้ Cap hit ปีละ 37.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,200 ล้านบาท) ถือเป็นสัญญาที่มีมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์ NBA

2. เลอบรอน เจมส์ (LeBron James) กับค่าเหนื่อย 153 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4,900 ล้านบาท) สัญญา 4 ปี เฉลี่ยรายได้ Cap hit ปีละ 35.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,100 ล้านบาท)

3. รัสเซลล์ เวสต์บรู๊ค (Russell Westbrook) กับรายได้ตามสัญญา 5 ปี 206.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,600 ล้านบาท) เฉลี่ยรายได้ Cap hit ปีละ 35.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,100 ล้านบาท)

4. คริส พอล (Chris Paul) กับรายได้ตามสัญญา 4 ปี 159.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5,100 ล้านบาท) เฉลี่ยรายได้ Cap hit ปีละ 35.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,100 ล้านบาท)

5. เบลค กริฟฟิน (Blake Griffin) กับรายได้ตามสัญญา 5 ปี 171.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5,500 ล้านบาท) เฉลี่ยรายได้ Cap hit ปีละ 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,000 ล้านบาท)

รายได้ของนักบาสแต่ละทีมจะแตกต่างกันไป เนื่องจากตัวนักกีฬาจะต้องเสียภาษีรายได้ให้กับรัฐที่ทีมนั้นสังกัดอยู่ ซึ่งบางรัฐมีค่าภาษีรายได้ที่สูงมาก แต่บางรัฐกลับไม่มีการเก็บภาษีรายได้เลย เช่น รัฐแคลิฟอเนียร์ของทีม Golden State Warriors ที่สตีเฟน เคอร์รี่ เพิ่งต่อสัญญาไป ถือเป็นรัฐที่มีอัตราภาษีรายได้สูงสุดในอเมริกา นักบาสบางคนจึงได้รับค่าเหนื่อยเยอะกว่าเพราะไม่ต้องเสียภาษีนั่นเอง

สำหรับรายได้ Cap hit ในข้างต้นนั้นคือ เงินเดือน (base salary) บวกโบนัสการเซ็นต์ (signing bonus) บวกโบนัสอื่นๆ (misc. bonus) เช่น แข่งชนะ ทีมเข้ารอบ ฯลฯ ซึ่งจะเพิ่มขึ้นทุกปีจนครบกับเงินที่ได้ตามสัญญานั่นเอง

ขอขอบคุณข้อมูล

http://www.now26.tv/view/60091

https://springfield.edu/where-basketball-was-invented-the-birthplace-of-basketball

https://www.history.com/news/how-a-canadian-invented-basketball

http://www.espn.com/nba/story/_/id/21691644/fran-fraschilla-ranks-world-top-basketball-leagues-nba

https://www.spotrac.com/nba/rankings/cash/


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment