SMO ยกระดับธรรมาภิบาลเข้าร่วมโครงการ CAC เสริมความเชื่อมั่นการเติบโตอย่างยั่งยืน

"กลุ่มสมอทอง” แสดงเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล ลงนามเข้าร่วมโครงการแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC) ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้าน Governance ภายใต้กรอบ ESG สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียในระยะยาว

นายกิตติพงษ์ พวงมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กลุ่มสมอทอง จำกัด (มหาชน) หรือ SMO เปิดเผยว่า บริษัทฯ ธุรกิจการผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ รวมถึงธุรกิจพลังงานไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ ประกาศยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นทางการ ด้วยการแสดงเจตนารมณ์เข้าร่วมเป็นภาคีของ โครงการแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (Thai Private Sector Collective Action Against Corruption: CAC) เพื่อยืนยันความตั้งใจในการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม และยึดมั่นในหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี

ทั้งนี้ การเข้าร่วมโครงการ CAC ยังสอดคล้องกับทิศทางการดำเนินธุรกิจของ SMO ที่มุ่งสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) การดูแลพนักงาน ชุมชน และสังคม (Social) ตลอดจนการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Governance) เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งขององค์กรในฐานะบริษัทจดทะเบียนที่มีความรับผิดชอบและน่าเชื่อถือ

นายกิตติพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่าการประกาศเจตนารมณ์ดังกล่าวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ SMO ในการป้องกันและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ โดยบริษัทฯ ให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติตามแนวทางและหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ CAC กำหนด พร้อมพัฒนาระบบและกระบวนการภายในองค์กรให้มีความรัดกุม โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ ภายในกรอบระยะเวลาที่กำหนดตามโครงการ บริษัทฯ จะนำแนวปฏิบัติของ CAC มาประยุกต์ใช้ในทุกระดับขององค์กร ตั้งแต่ระดับนโยบาย การบริหารจัดการ การดำเนินงาน ไปจนถึงการสร้างความตระหนักรู้แก่พนักงาน คู่ค้า และผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ เพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ยอมรับการทุจริตคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ

“การเข้าร่วมโครงการ CAC ถือเป็นก้าวสำคัญของ SMO ในการยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการ และสะท้อนเจตนารมณ์ของบริษัทฯ ที่จะดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส ซื่อสัตย์ และรับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง เราเชื่อว่าหลักธรรมาภิบาลที่เข้มแข็งเป็นรากฐานสำคัญของการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว SMO ให้ความสำคัญกับการเติบโตควบคู่ความรับผิดชอบ โดยเฉพาะในมิติ Governance ภายใต้กรอบ ESG ซึ่งไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ แต่ยังช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน สถาบันการเงิน และพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ” นายกิตติพงษ์ กล่าว


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment