{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

Ledger™ ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล เปิดตัวอุปกรณ์รุ่นใหม่ Ledger Nano™ Gen5 พร้อมรีแบรนด์แอปพลิเคชัน Ledger Live™ เป็น Ledger Wallet™ และเปิดตัวฟีเจอร์ Ledger Enterprise Multisig ในงาน Ledger Op3n ณ กรุงปารีส นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลและการพิสูจน์ตัวตนในโลกดิจิทัลยุคใหม่
Ledger Nano™ Gen5 ได้รับการออกแบบให้รองรับอนาคตของการยืนยันตัวตนและการทำธุรกรรมในระดับองค์กร รองรับการใช้ FIDO2 Passkey ในการเข้าสู่ระบบ หน้าจอสัมผัส E Ink® ประหยัดพลังงาน มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง Clear Signing และ Transaction Check รวมถึงการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth® และ NFC เพื่อให้ผู้ใช้สามารถลงนามธุรกรรมได้อย่างสะดวกทุกที่ทุกเวลา
อุปกรณ์ Ledger Nano™ Gen5 ได้รับการออกแบบโดย Tony Fadell ผู้สร้าง iPod® ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมบริหารของ Ledger และ Susan Kare ศิลปินและนักออกแบบกราฟิกระดับตำนาน Apple Macintosh® โดยมีชุด “Badge Icons” สำหรับปรับแต่งอุปกรณ์ให้สะท้อนตัวตนของผู้ใช้ เพิ่มความสนุกในการใช้งานโดยไม่ลดทอนความปลอดภัย
Pascal Gauthier ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Ledger กล่าวว่า “Ledger Nano Series คืออุปกรณ์รักษาความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จสูงสุด ด้วยยอดขายหลายล้านเครื่องทั่วโลกและไม่เคยถูกแฮ็กแม้แต่ครั้งเดียว รุ่น Gen5 ได้รับการออกแบบให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัล และมอบประสบการณ์ที่ปลอดภัยในราคาที่เข้าถึงได้”
ขณะเดียวกัน Ledger ปรับภาพลักษณ์ใหม่ โดยเปลี่ยนชื่ออุปกรณ์รักษาความปลอดภัยจาก “ฮาร์ดแวร์วอลเล็ต (Hardware Wallet)” เป็น “อุปกรณ์ลงนาม Ledger (Ledger Signer)” สะท้อนบทบาทที่ก้าวข้ามจากการเก็บสินทรัพย์ดิจิทัล สู่การปกป้องทั้งธุรกรรมและอัตลักษณ์ดิจิทัลในยุคที่ AI พัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยอุปกรณ์ลงนาม Ledger ยังคงทำงานร่วมกับแอป Ledger Wallet™ (ชื่อเดิม Ledger Live™) ช่วยให้ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถจัดการและปกป้องสินทรัพย์ดิจิทัล เชื่อมต่อกับบริการ Web3 และควบคุมอนาคตทางการเงินของตนเองได้อย่างมั่นใจ
สำหรับแอปพลิเคชัน Ledger Wallet™ ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของระบบนิเวศ ให้ Ledger เชื่อมโยงกับอุปกรณ์ลงนามได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นแพลตฟอร์มบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลที่ปลอดภัยและใช้งานง่าย รองรับการซื้อ–ขาย–รับ–สวอป ด้วยความเร็วและเสถียรภาพที่สูง พร้อมฟีเจอร์ใหม่เช่น การเชื่อมต่อกับ dApp ยอดนิยมอย่าง 1inch และการรองรับบัญชี Noah สำหรับแปลงเงินสดเป็นสเตเบิลคอยน์ (USDC) โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ Ledger ในการยกระดับประสบการณ์การถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลให้ปลอดภัย คล่องตัว และอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ใช้อย่างแท้จริง

Ian Rogers หัวหน้าฝ่ายประสบการณ์ลูกค้า (CXO) ของ Ledger กล่าวว่า “Ledger ถูกสร้างขึ้นเพื่อผู้ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างแท้จริง ตลอด 11 ปี ที่ผ่านมา Ledger ยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ทันต่อโลกคริปโต ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ Ledger กับสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ เพื่อซื้อ สวอป รับ ใช้จ่าย และจัดการโทเคนกว่า 100 สกุลได้อย่างมั่นใจ
นอกจากนี้ Ledger ยังเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Ledger Enterprise Multisig ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับองค์กรด้วยการรองรับระบบ Proof of Authority และฟีเจอร์ Clear Signing ที่ตรวจสอบการอนุมัติธุรกรรมโดยตรงบนอุปกรณ์ลงนาม ลดความเสี่ยงด้านความคลาดเคลื่อนและการโจมตีทางดิจิทัล เพิ่มความยืดหยุ่นและความโปร่งใสในการบริหารสินทรัพย์ ทุกขั้นตอนสามารถตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์ผ่านการเข้ารหัสขั้นสูง มอบความมั่นใจสูงสุดให้แก่สถาบันการเงิน หน่วยงานรัฐ และธุรกิจคริปโต ทั่วโลก
อุปกรณ์ Ledger Nano™ Gen5, แอป Ledger Wallet™ และ Ledger Enterprise Multisig ผ่านการทดสอบ Donjon ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเชิงเทคนิคของ Ledger และได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญภายนอก ปัจจุบันวางจำหน่ายแล้วทั่วโลก โดยขึ้นอยู่กับการรับรองผลิตภัณฑ์ในแต่ละประเทศ
สนใจผลิตภัณฑ์สามารถดูได้ที่ www.Ledger.com และสำหรับประเทศไทยจะวางจำหน่ายเร็ว ๆ นี้ที่ Dot Life (.Life) สาขา พารากอน สาขาเซ็นทรัลเวิลด์, Tech House by Dotlife, King Power และ B2S เมกาบางนา รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่างเป็นทางการ ได้แก่ Bitkub Academy, NocNoc, Lazada: Ledger LazMall, Shopee: Ledger by RTB, เว็บไซต์ของบริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด และพาร์ทเนอร์ออนไลน์ที่ได้รับอนุญาตทั่วประเทศ
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS