โลกโซเชียลแชร์ข้อมูล “คนละครึ่ง พลัส” วันแรก 96% จาก 11,793 ข้อความว่า "เงินเข้าแล้วและเริ่มมีการใช้งาน"

“คนละครึ่ง พลัส” วันแรก (29 ตุลาคม 2568) ผู้ใช้ Social Media 96% จาก 11,793 ข้อความ ตั้งแต่เวลา 6.00 น.-13.00 น. มีการแชร์ข้อมูลว่า มีเงินจากโครงการเข้าสู่แอป “เป๋าตัง” แล้ว มีการสอบถามถึงจำนวนเงินที่ใช้ได้ต่อวัน และ ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการเป็นหลัก

ในขณะที่อีก 2% ให้ความเห็นในเชิงบวกในการใช้จ่ายกับรถไฟฟ้าได้ และ สร้างความคึกคักให้กับเศรษฐกิจ และ อีก 2% มีความเห็นว่า ขั้นตอนการลงทะเบียนของร้านค้าซับซ้อน

เรียลวอทช์ แล๊ป (RealWatch Lab) ส่วนวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูล (Research and Data Analytics) บริษัท เรียล สมาร์ท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลสำรวจการพูดถึงโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ผ่าน โซเชียล มีเดีย ในการใช้งานวันแรก (29 ตุลาคม 2568) ตั้งแต่ 6.00 น.-13.00 น. จากการรวบรวมข้อมูลประมาณ 70% ของจำนวนการพูดถึงโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ทั่วประเทศ หรือ คิดเป็นจำนวน 11,793 ข้อความใน โซเชียล มีเดีย (Social Media) พบว่า เป็นการพูดถึงโครงการในประเด็นทั่วไปในสัดส่วนที่สูงถึง 96% จากจำนวนข้อความทั้งหมด

โดยมี 3 ประเด็นที่พูดถึงโครงการ ได้แก่

ประเด็นแรกคือเรื่องของ ข้อมูลการใช้จ่าย และ การเติมเงิน โดยความเห็นส่วนใหญ่ จะระบุว่า ตนได้รับเงินจากโครงการแล้ว และ มีการสอบถามเรื่องของจำนวนเงินที่ใช้ได้ต่อวัน และ ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการเป็นหลัก

ประเด็นถัดมาเป็นเรื่องของ การประชาสัมพันธ์ เป็นการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้าที่เข้าโครงการมีการแชร์ทำเลที่ตั้งของร้านเป็นต้น

ประเด็นที่สาม เป็นเรื่องของขั้นตอนและสถานะเกี่ยวกับร้านค้าในโครงการ

และ ประเด็นสุดท้ายคือเรื่องของ ระบบและการใช้งาน อาทิ การที่ร้านค้าต้องสร้าง QR Code ใหม่ทุกครั้งเพื่อให้เงินโอนเข้า “ถุงเงิน” เป็นต้น

ในขณะที่มีการพูดถึงในเชิงบวก คิดเป็นสัดส่วน 2% ของจำนวนข้อความทั้งหมด โดยมี 2 ประเด็นที่พูดถึงได้แก่

ประเด็นเรื่องเศรษฐกิจ โดยความเห็นส่วนใหญ่ระบุว่ามาตรการนี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทำให้ตลาดมีความคึกคัก และ ช่วยประชาชนประหยัดค่าครองชีพ

ประเด็นถัดมา คือการใช้จ่ายโดยเฉพาะ การที่สามารถใช้คนละครึ่งพลัสกับรถไฟฟ้าได้

และ มีการพูดถึงในเชิงลบ คิดเป็นสัดส่วน 2% ของจำนวนข้อความทั่วหมด โดยมี 3 ประเด็นหลักที่มีการพูดถึงในเชิงลบ ได้แก่

ประเด็นแรก ขั้นตอนในการลงทะเบียนของร้านค้ามีความซับซ้อน

ประเด็นถัดมาเป็นเรื่องของ ระบบการใช้งาน ที่ร้านค้าต้องเปิด QR Code ใหม่ทุกครั้ง รวมไปถึงระบบของแอปที่ล่าช้า

และ ประเด็นถัดมาคือ จำนวนร้านค้าที่เข้าร่วมมีจำนวนที่น้อย และ ขาดการประชาสัมพันธ์

ครึ่งวันแรกใช้จายแล้วกว่า 500 ล้านบาท

ในขณะที่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ระบุว่า มีการใช้จ่ายผ่านโครงการคนละครึ่งพลัส ตั้งแต่ 6.00 น.-12.30 น. สำเร็จแล้วกว่า 2.49 ล้านราย ยอดใช้จ่ายรวมกว่า 501.11 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายจำนวน 252.40 ล้านบาท และ เงินที่รัฐร่วมจ่ายจำนวน 248.71 ล้านบาท

โครงการ “คนละครึ่ง พลัส” เป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกุล ภายใต้แนวคิด Quick Big Win วงเงินงบประมาณรวม 44,000 ล้านบาท โครงการได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก และ มีประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมทั้งสิ้น 20 ล้านสิทธิ และมีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมทั่วประเทศทั้งสิ้น 523,603 ราย และ ร้านค้าที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการสมัคร 101,741 ราย และ รัฐบาลประกาศล่วงหน้าว่า หลังจากเฟสแรก จะมีการเปิดเฟสองในเดือนมกราคม 2569 โดยเฟสแรกเริ่มใช้วันที่ 29 ตุลาคม 2568 ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 (เวลา 06.00 - 23.00 น.)ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซึ่งจะได้รับวงเงินสนับสนุนค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าและบริการที่กำหนดในอัตรา 50% ทั้งนี้ ไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อวัน แต่ไม่เกินจำนวนวงเงินสิทธิที่กำหนด โดยประชาชนผู้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเฉพาะแบบ ภ.ง.ด. 90 ภ.ง.ด. 91 หรือ ภ.ง.ด. 95 ในปีภาษี 2567 จะได้รับวงเงินสิทธิไม่เกิน 2,400 บาทต่อคน และประชาชนทั่วไปจะได้รับวงเงินสิทธิไม่เกิน 2,000 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาใช้จ่ายของโครงการฯ

ทั้งนี้ ผู้ได้รับสิทธิจะต้องใช้สิทธิโครงการฯ โดยซื้อสินค้าหรือบริการในโครงการฯ ครั้งแรกผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ภายในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งหากพ้นระยะเวลาดังกล่าว จะถือว่าไม่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ และถูกตัดสิทธิในโครงการฯ


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment