ตลาดหุ้นไตรมาส 4 “สภาพแวดล้อมดี แรงขับเคลื่อนมี แต่ VALUATION เริ่มตึง รับมืออย่างไร?”

บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS) ประเมินไตรมาส 4 แม้เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัวต่อเนื่อง โดยข้อมูลจาก Bloomberg ระบุว่าในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา (2015–2024) GDP โลกเติบโตเฉลี่ยเพียง 2.8% ต่ำกว่าทศวรรษก่อนหน้า แต่ยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค (Technical Recession) ขณะเดียวกัน IMF ได้ปรับคาดการณ์ GDP ของหลายประเทศขึ้นเล็กน้อยจากผลของนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายและการตอบโต้ภาษีที่เบากว่าคาด ด้านนโยบายการเงิน ธนาคารกลางหลักทั่วโลกเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ต้นปี 2025 ขณะที่ Fed ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้และอีก 1 ครั้งในปี 2026 ส่งผลให้ส่วนต่าง Bond Yield ไทย–สหรัฐฯ แคบลง หนุนให้เงินบาทแข็งค่า และอาจกระตุ้นให้เกิด Fund Flow ไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทยบางส่วน โดยเฉพาะในช่วงที่ดอกเบี้ยเริ่มลดลง

ด้านตลาดทุน ASPS คาดว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนปี 2568 จะอยู่ที่ประมาณ 1.06 ล้านล้านบาท (EPS เฉลี่ย 86 บาทต่อหุ้น) โดยครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 5.9 แสนล้านบาท ซึ่งมีโอกาสสอดคล้องกับเป้าหมาย ขณะที่ตลาดทุนทั่วโลกยังคงขับเคลื่อนด้วย “สภาพคล่องล้นระบบ” (Liquidity Driven Rally) เงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงและทองคำมากเป็นพิเศษในเดือนกันยายน โดยมีเม็ดเงินไหลเข้า ETF รวมกว่า 2.4 แสนล้านดอลลาร์ และเฉพาะกองทุนทองคำกว่า 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าสูงสุดในประวัติการณ์ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทยที่ต่างชาติเริ่มสลับมาซื้อสุทธิมากขึ้นในช่วงต้น 4Q68 อย่างไรก็ดีตลาดหุ้นโลกเริ่มมีมูลค่าค่อนข้างแพง (Valuation ตึงตัว) โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่มีระดับการใช้ Margin สูงสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนแรงเก็งกำไรสูง อาจส่งผลให้ตลาดหุ้นโลกและไทยอาจผันผวนแรงในบางจังหวะเวลาที่มีประเด็นลบเข้ามา

ฝ่ายวิจัย ASPS ยังคงเป้าหมาย SET ปีนี้ที่ 1376 จุด (EPS 89 บาท/หุ้น, P/E 16 เท่า อิง MEYG +1.5 SD) กลยุทธ์แนะนำสะสมหุ้น 5 ธีม คือ หุ้น China Play รับการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน SCGP, IVL, หุ้น Tariff Play WHA, หุ้นรับการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย CPAXT, หุ้นได้ประโยชน์บาทแข็งค่า GULF, BPP (เก็งกำไรมีโอกาสเข้า SET100 รอบ 1H69) และเก็งกำไรหุ้นประกันได้ประโยชน์ Bond Yield ดีด BLA

ส่วนภาพรวมตลาดโลกมีสัญญาณ “ร้อนแรงเกินจริง” สะท้อนจากตลาดหุ้นหลายประเทศ รวมถึงราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่ในปีนี้ และเริ่มมีความกังวล “AI Bubble” อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ แต่ยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าคาด และสภาพคล่องที่ล้นระบบ ส่วนตลาดหุ้นจีนยังมีสัญญาณเศรษฐกิจจริงที่อ่อนแรง ต้องการมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม แต่ภาค Data Center ของจีนยังเติบโตต่อเนื่อง นำโดย Alibaba นอกจากนี้ยังมีข่าวดีจาก ตลาดหุ้นเวียดนาม ที่ถูกประกาศเข้าสู่ดัชนี FTSE Emerging Market เมื่อ 7 ต.ค.68 ซึ่งจะมีผลจริงใน ก.ย.69 คาดว่าจะดึงดูดเงินทุนต่างชาติไหลเข้าได้ราว 5 พันล้านเหรียญฯ พร้อมกับ EPS ของ VN Index ปรับขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ค่า P/E ปี 2025 ยังอยู่ในระดับต่ำ (10.7 เท่า)


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment