{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
WHA Group กวาดกำไรครึ่งปีแรก 715 ล้านบาท มั่นใจครึ่งปีหลังตัวธุรกิจกลับมาผงาด ลูกค้าจ่อเซ็นสัญญาเช่าคลังสินค้าและโรงงาน – ขายที่ดิน
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 บริษัท มีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไร และกำไรสุทธิทั้งสิ้น 1,967 ล้านบาท และ 542 ล้านบาท ตามลำดับ โดยเป็นรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรปกติ และกำไรสุทธิปกติทั้งสิ้น 1,885 ล้านบาท และ 518 ล้านบาท ลดลง 35% และ 45% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2562 ด้านผลการดำเนินครึ่งปีแรก บริษัท มีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรทั้งสิ้น 3,245 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 641 ล้านบาท โดยหากพิจารณาถึงผลประกอบการปกติ บริษัท มีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินงาน 3,284 ล้านบาท และกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 715 ล้านบาท ลดลง 26% และ 35% ตามลำดับจากปีที่แล้ว
สาเหตุหลักจากการโอนที่ดินเลื่อนจากมาตรการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศ การรับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่ลดลงของโรงไฟฟ้า Gheco-One การหยุดซ่อมบำรุงตามแผนของโรงไฟฟ้า SPP 3 แห่ง และค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในโครงการใหม่ของธุรกิจสาธารณูปโภค
โดยทิศทางธุรกิจโลจิสติกส์ยังคงเติบโตตามการขยายตัวของธุรกิจ E-Commerce และ Consumer ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง แผนการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ในปีนี้เป็นไปตามคาด คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากการขายทรัพย์สินเข้ากองทรัสต์ WHART และ HREIT มูลค่ารวมประมาณ 4,600 ล้านบาท ได้ในช่วงไตรมาส 4
ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม คาดว่าปีนี้มียอดขายที่ดินเกินกว่าเป้าหมายที่บริษัท ตั้งไว้ ทั้งนี้ ลูกค้ากลุ่มต่างๆ ยังคงแสดงความสนใจเข้ามาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ของบริษัท อย่างต่อเนื่องจากทิศทางการกระจายการลงทุนออกจากประเทศจีนของกลุ่มนักลงทุนหลายกลุ่มทั้ง จีน ไต้หวัน และญี่ปุ่น ทั้งนิคมอุตสาหกรรมของบริษัททั้งในประเทศไทยและเวียดนาม คาดว่าภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อยู่ในระดับที่ควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการออกมาตรการรองรับการเดินทางระหว่างประเทศสำหรับกลุ่มธุรกิจ (Business Bubble) นั้น จะส่งผลให้ยอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมสามารถกลับมาเติบโตได้ในช่วงครึ่งปีหลังต่อเนื่องไปยังช่วงปีหน้าอีกด้วย
ธุรกิจสาธารณูปโภค คาดว่าในครึ่งปีหลังยอดจำหน่ายน้ำจะเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก จากการกลับมาเริ่มเปิดดำเนินการโครงการใหม่ของลูกค้าที่มีการชะลอในช่วงครึ่งปีแรกจากภาวะภัยแล้ง นอกเหนือจากนั้น บริษัทเร่งการลงทุนในโครงการ Reclaimed Water เพิ่มเติมในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ส่งผลให้มีกำลังการผลิต Reclaimed Water ณ ปัจจุบัน ประมาณ 15% ของความต้องการใช้น้ำของลูกค้าทั้งหมด ทำให้เพิ่มความสามารถในการทำกำไรตลอดจนเป็นการสร้างความยั่งยืนในการให้บริการเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ส่วนของธุรกิจไฟฟ้า กลุ่มบริษัทยังคงได้รับเงินปันผลจากการลงทุนในโครงการต่างๆในระดับที่สูงตามคาดการณ์ได้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการทยอยเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการ Solar Rooftop ในช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นจาก 6 เมกะวัตต์ในช่วงปลายปี 2562 เป็น 22 เมกะวัตต์ และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 39 เมกะวัตต์ ภายในสิ้นปี 2563 นี้ ส่งผลให้ยอดกำลังผลิตไฟฟ้าที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วรวมตามสัดส่วนการถือหุ้นแตะระดับ 592 เมกะวัตต์
ขณะเดียวกันธุรกิจดิจิทัล ยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง บริษัทได้มีการลงนามในสัญญาการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ ในการดูแลระบบเน็ตเวิร์ก และให้บริการเช่าพื้นที่วางเครื่องเซิร์ฟเวอร์จำนวน 109 ตู้ ตลอดจนบริษัทได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. ในการทดสอบระบบ 5G ร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายชั้นนำของประเทศภายในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมของบริษัท
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS