ส่งออกยังเซ ธสน.เร่งกู้สู้โควิด

EXIM BANK เผยการส่งออกไทยยังไม่ดีมากนัก แม้ว่าแนวโน้มเริ่มฟื้นตัวขึ้นบ้าง พร้อมออก3ผลิตภัณฑ์ช่วยธุรกิจ S และ M เน้นอุตฯเกษตร อาหาร และเครื่องสำอางเร่งฟื้นส่งออก

นางขวัญใจ เตชเสนสกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยธุรกิจ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศ (ธสน.) หรือ EXIM BANK เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาการส่งออกของไทยได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา ซึ่งข้อมูลการส่งออกเดือนพ.ค.63 ของไทยติดลบ 22.5% ต่ำสุดในรอบ 11ปี เมื่อรวม 5 เดือนของปีนี้ ติดลบ 3.7% แม้ว่าดัชนีในหลายด้าน อาทิ ดัชนีทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ หรือดัชนีทางเศรษฐกิจในประเทศ เช่น ดัชนีการค้า ดัชนีความเชื่อมั่น หรือดัชนีธุรกิจ จะปรับตัวดีขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ

แล้วหากลงไปดูในรายละเอียดการส่งออกของไทยจะพบว่า ตลาดทุกตลาดแทบจะมีการาส่งออกติดลบทั้งหมด ยกเว้นเพียงตลาดจีนที่เป็นบวก ที่ยังช่วยประคับประคองการส่งออกของไทย โดยสินค้าที่ส่งออกไปจีนได้มากก็คือกลุ่มอัญมณี และผลไม้สดแช่เย็น

แม้แนวโน้มการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทย จะค่อยบรรเท่าลง แต่ภาวะของการทำกิจกรรมทางธุรกิจอาจจะยังไม่ฟื้นได้อย่างเต็มที่ แล้วทำให้การส่งออกของไทยยังเป็นปัญหาอยู่มาก ซึ่งทาง EXIM BANK ได้ลดเป้าหมายการส่งออกจากเดิมที่ปีนี้คาดว่าจะ -5 ถึง -8 เป็น -8 ถึง 10

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันกำลังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากกิจกรรมการบริโภคและการท่องเที่ยวภายในประเทศ ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง แต่ เศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งหลังปี 2563 ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 เป็นสำคัญ รวมทั้งผลที่จะตามมาเมื่อมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ ของภาครัฐทยอยสิ้นสุดลง

โดยในด้านการส่งออก ในช่วงที่ผ่านมาไทยอยู่ในเกณฑ์ดีกว่าหลายประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และจีน เพราะสินค้าไทยหลากหลายและยืดหยุ่นค่อนข้างดี แต่โอกาสการเติบโตของภาคส่งออกขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการค้าโลก รวมถึงความสามารถของผู้ประกอบการไทยในการบริหารจัดการความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระเงินค่าสินค้าของผู้ซื้อ และความเสี่ยงด้านความผันผวนของค่าเงิน ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังเกิดขึ้นทั่วโลก ความไม่แน่นอนของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังอยู่ในระดับต่ำ โดย EXIM BANK คาดการณ์ว่า มูลค่าส่งออกของไทยทั้งปี 2563 จะหดตัว 8-10%

ซึ่งในครึ่งหลังปี 2563 EXIM BANK ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อช่วยผู้ประกอบการที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมและขนาดธุรกิจให้สามารถปรับตัวรับมือสถานการณ์เศรษฐกิจไทยและต่างประเทศได้

• บริการประกันการส่งออกสำหรับผู้ประกอบการขนาดย่อม (EXIM for Small Biz) เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการขนาดย่อมที่มีรายได้ไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อปีหรือจ้างงานไม่เกิน 50 คน ที่เพิ่งเริ่มต้นส่งออก ไม่เคยใช้บริการประกันการส่งออก และมีแผนจะส่งออกมูลค่าไม่สูงนัก สามารถขออนุมัติวงเงินผู้ซื้อกับ EXIM BANK ตั้งแต่มูลค่า 100,000-500,000 บาท วงเงินรับประกันสูงสุด 2 ล้านบาทต่อรายผู้เอาประกัน

• สินเชื่อเอ็กซิมเสริมทุนธุรกิจขนาดกลาง (EXIM Amazing M Credit) เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพิ่มสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลาง วงเงินสูงสุด 80 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 3.75% ต่อปี

• สินเชื่อเอ็กซิมเสริมไทยเก่ง (EXIM Star Credit) เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับผู้ส่งออก SMEs ใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ 1. กลุ่มเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร และเทคโนโลยีชีวภาพ 2. กลุ่มอาหาร อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร และ 3. กลุ่มเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติปรุงแต่งดูแลร่างกาย วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย 4.75% ต่อปี และลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 4% ต่อปี กรณีส่งออกไป CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม)



นอกจากนี้ EXIM BANK มีสินเชื่ออีกหลากหลายรูปแบบ เพื่อสนับสนุนผู้ส่งออกและนักลงทุนในซัพพลายเชนของการส่งออกสินค้าและบริการของไทยปรับเปลี่ยนหรือยกระดับกระบวนการผลิต เพิ่มมูลค่าธุรกิจ และแข่งขันได้ รวมทั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้าของ EXIM BANK (EXIM Excellence Academy : EXAC) ยังมีโครงการอบรมทางออนไลน์และกิจกรรมกลุ่มย่อย เพื่อช่วยเพิ่มทักษะความรู้ ข้อมูลข่าวสาร และจับคู่ธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการไทยกับคู่ค้าในต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาด CLMV ซึ่งยังมีความต้องการสินค้าและบริการของไทยอีกมาก


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment