ชุมชนคิด ชุมชนทำ กทบ.หนุน

ในภาวะที่ประเทศกำลังประสบปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 จนกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มคนระดับกลางไปจนถึงฐานราก

สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) ที่ดูกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (กทบ.) กว่า 79,000 แห่ง พยายามที่จะช่วยดูสมาชิกของกองทุนฯ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นประชาชนระดับฐานราก ซึ่งมีกว่า 14 ล้านคน ให้ช่วยเหลือดูแลตัวเองได้ ไม่เป็นภาระของสังคม และยังเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยประคับประคองเศรษฐกิจของประเทศชาติอีกทางหนึ่ง

นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ ผู้อำนวยการ สทบ. กล่าวว่า การที่ สทบ. ได้ปรับรูปแบบในการดูแลและยกระดับกองทุนฯ ในเชิงรุก เพื่อให้กองทุนฯ สามารถดูแลสมาชิกและสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชนได้ด้วยตัวเอง และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ กทบ. ไม่ใช่เพียงให้แต่ตัวเงินเพียงอย่างเดียว

สทบ. จึงมีแนวคิดในการให้ชุมชนเป็นผู้คิดโครงการที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อชุมชน เพื่อยกระดับความเป็นอยู่และสร้างความกินดีอยู่ดี ความเข้มแข็งต่อชุมชนในเชิงเศรษฐกิจและสังคม โดยที่ สทบ.อาจเข้าไปสนับสนุนงบบางส่วน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นและชุมชนไปบริการจัดเพื่อขยายในอนาคต

“การลงพื้นที่ไปยังกองทุนหมู่บ้านฯ ที่มีความเข้มแข็ง เราพบว่าแต่ละแห่งมีแนวคิด มีโครงการที่เกิดขึ้นจากความต้องการ และภูมิปัญญาของชาวบ้านที่ต้องการจะขจัดปัดเป่าปัญหาของชุมชน ที่ส่วนกลางอาจยังไม่เข้าใจ ทำให้หลายโครงการที่ส่วนกลางคิดให้ชุมชนทำ จึงไม่ประสบความสำเร็จ เพราะไม่ตรงกับความต้องการของชุมชนโดยแท้จริง

ซึ่ง สทบ. ได้เปลี่ยนแนวคิด โดยจะให้ คนในหมู่บ้าน ชุมชน ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ คิดค้นโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนอย่างแท้จริง และสามารถบริหารจัดการต่อไปในอนาคตอย่างต่อเนื่อง และทางการเพียงแค่สนับสนุนงบประมาณบางส่วน ในการเป็นจุดเริ่มต้น แล้วชุมชนไปบริหารจัดการเพื่อขยับขยายโครงการให้ดีขึ้นต่อไป ซึ่งมีกองทุนฯ จำนวนมาก ที่คิดค้นโครงการที่ดี เป็นประโยชน์ สามารถสร้างความยั่งยืนให้แก่ชุมชน พร้อมที่จะเป็นฐานรากของเศรษฐกิจไทย ขณะที่ทางการก็สามารถบริหารจัดการงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ เวลานี้มีหลายโครงการที่ไม่เคยคิดว่าชุมชมจะติดเองได้ ซึ่ง สทบ. จะนำไปเสนอให้ฝ่ายนโยบาย ให้ชุมชนอื่นได้รับรู้ เพื่อเป็นตัวอย่างในการที่จะพัฒนาชุมชนของตนเอง” ผอ.สทบ. กล่าว

โดยล่าสุด สทบ. ได้ลงพื้นที่จังหวัดตาก เพื่อตรวจเยี่ยมกองทุนฯ และพบปะสมาชิก อาทิ “โครงการผลิตน้ำดื่มชุมชน” กองทุนหมู่บ้านร่มเกล้าสหมิตร หมู่ที่ 5 ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ซึ่ง นายอธิวัฒน์ ศุคระศักดิ์สิทธิ์ ประธานกองทุนหมู่บ้านร่มเกล้าสหมิตร ระบุว่า โครงการดังกล่าวเป็นการขยายจากโครงการก่อนหน้านี้ที่ได้รับเงินสนับสนุบ จากสทบ. มั่นใจว่าจะต่อยอดความสำเร็จและสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนต่อเนื่อง

ทั้งนี้กองทุนหมู่บ้านร่มเกล้าสหมิตร ได้รับเงินงบประมาณจาก สทบ.ตามโครงการประชารัฐ 500,000 บาท เมื่อปี 2559 ก็ได้นำมาพัฒนาสถานีบริการน้ำมันเพื่อชุมชน ก่อนขยายมาทำร้านค้าประชารัฐด้วยงบประมาณ 200,000 บาท แล้วก็ได้ใช้งบประมาณอีก 300,000 บาท เพื่อขยายพื้นที่ปั๊มน้ำมัน ล่าสุดก็ได้วางแผนทำโครงการน้ำดื่มชุมชน ที่ใช้งบประมาณ 500,000 บาท ซึ่งได้รับงบสนับสนุนจาก สทบ. ประมาณ 200,000 บาท ที่เหลือก็จะใช้เงินผลประโยชน์จากการบริหารปั๊มและร้านค้ามาสมทบ

ซึ่งโครงการเหล่านี้คาดจะทำให้มีเงินหมุนเวียนประมาณ 4-5 ล้านบาทต่อเดือน ทำให้สมาชิกของกองทุนมู่บ้านร่มเกล้าสหมิตร ที่มีประมาณ 782 คนได้รับประโยชน์จากเงินปันผล มีการจ้างงานคนในชุมชนอย่างน้อยก็ 10 คน แล้วเงินที่ได้จากการบริหาร ก็สามารถนำไปช่วยเหลือชุมชนได้ เช่น การมอบทุนการศึกษา การจัดกิจกรรมภายในชุมชน เป็นต้น

อีกโครงการหนึ่งก็คือ โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ ตามโครงการอนุรักษ์ต้นน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ ภายใต้โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนปี 2563 โดยกองทุนหมู่บ้านห้วยมะพร้าว ต.แม่ตื่น อ.แม่ระมาด

นายศักดิ์สิทธิ์ มติกวิน ประธานเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านฯ ระดับตำบลแม่ตื่น กล่าวว่า โครงการได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหมู่บ้านฯ ซึ่งสามารถจ่ายไฟฟ้าให้กับชุมชนได้ทั้งหมด 52 ครัวเรือน 1 กลุ่มบ้าน แต่ก็ยังไม่ครบ ก็พยายามเสนอของบเพิ่มเติมเพื่อทำให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งหลังจากดำเนินโครงการทำให้ความเป็นอยู่ของชุมชนดีขึ้น




COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment