{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย เผยรายได้ปีนี้โตเข้าเป้า 2,000 ล้าน ลูกค้าแห่ขอซื้อคอนเทนต์เพิ่ม ได้ EXIM Bank การันตีช่วยลดความเสี่ยงผิดชำระหนี้
คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าปีนี้จะทำรายได้ 2,000 ล้านบาทได้ตามเป้าหมาย ผลจากการเติบโตของอุตสาหกรรมลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่มีอัตราการขยายตัวอย่างโดดเด่น จากความต้องการซื้อลิขสิทธิ์เพื่อนำไปออกอากาศผ่านทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง ทีวีดิจิทัล และแพลตฟอร์ม OTT เนื่องจาก JKN มีจุดแข็งสำคัญคือ การเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์คอนเทนต์แบบ Output Deal จากเจ้าของสิทธิ์ ทำให้ปัจจุบันบริษัท มีลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่หลากหลายรวม 8 กลุ่มคอนเทนต์จากซูเปอร์แบรนด์ระดับโลก ที่ครอบคลุมทุกสาระและความบันเทิง
นอกจากนี้ สถานการณ์ COVID-19 ยังเอื้อต่อตลาดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในไทย โดยผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล เช่น ช่อง 8 ช่อง 3 และช่องเวิร์คพอยท์ ให้ความสนใจติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์เพิ่มขึ้นในไตรมาสแรกที่ผ่านมาและในไตรมาส 2 นี้ยังมีทีวีดิจิทัลรายใหม่ๆ ติดต่อซื้อคอนเทนต์ เพื่อไปออกอากาศเพิ่มเติมอีกด้วย
ขณะที่ตลาดจำหน่ายคอนเทนต์ในต่างประเทศ ซึ่งบริษัทวางเป้าหมายจะมีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 30% ของรายได้รวม ปัจจุบันก็สามารถปิดสัญญาการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรี่ส์ละครไทยจากช่อง 3 ที่ JKN เป็นตัวแทนจำหน่ายในภูมิภาคนี้ได้เพิ่มเติม เช่น การจำหน่ายคอนเทนต์ เรื่อง Love Destiny หรือ บุพเพสันนิวาส ให้แก่บริษัท ‘มีเดีย คอร์ป’ สื่อทีวีดิจิทัลยักษ์ใหญ่ของประเทศสิงคโปร์เพื่ออากาศผ่านช่อง U และ meWATCH และปิดการขายกับ‘ติ่มซำ’ เป็นสื่อยักษ์ใหญ่ที่มีแพลตฟอร์ม OTT ทั้งในประเทศมาเลเซีย ประเทศสิงค์โปร์ และประเทศบรูไน ได้อีก 5 เรื่อง รวม 180 ชั่วโมง จากเดิมที่เคยซื้อคอนเทนต์ละครไทยจาก JKN เพื่อนำไปออกอากาศมาแล้ว รวมความยาว 350 ชั่วโมง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มเติม โดยตั้งเป้าสัดส่วนรายได้เพิ่มเป็น 50% ของรายได้ทั้งหมด เพื่อก้าวสู่การเป็น Global Company ในอนาคต
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ JKN กล่าวว่า ส่วนการจัดเก็บหนี้นั้น บริษัท มีแนวทางการบริหารที่ยืดหยุ่นในการจัดเก็บลูกหนี้ที่เป็นผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลรายใหญ่ของไทยไม่เกิน 180 วัน เพื่อช่วยเหลือพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งเชื่อมั่นว่ากลุ่มลูกค้าเหล่านี้จะไม่เบี้ยวหนี้ เนื่องจากเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ส่วนการจัดเก็บลูกค้าในต่างประเทศนั้น ก็ได้มอบหมายให้ธนาคารเอ็กซิมแบงก์เป็นผู้ดูแล โดยเริ่มจากการตรวจสอบฐานะทางการเงินของลูกค้าก่อนที่ JKN จะจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ให้ และหากเกิดกรณีการผิดชำระหนี้ตามระยะเวลาที่กำหนด ทางธนาคารเอ็กซิมแบงก์จะเข้ารับประกันในส่วนนี้โดยจะจ่ายเงินให้กับทาง JKN ตามมูลหนี้ที่มีการค้ำประกัน ทำให้บริษัทฯ ปิดความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระของลูกค้าได้อย่างดี
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS