อีเว้นท์โดนหนัก CMOต้องลดเป้า50%

ซีเอ็มโอรับต้องลดเป้าหมายลง50% หลังเจอโควิด-19 ปรับตัวสู้ศึก ชูเทคโนโลยีดิจิทัล จัดอีเว้นท์ออนไลน์ ชี้ โควิด-19 กระทบวงการอีเว้นท์ มากกว่าหลายแสนล้านบาท

นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO เปิดเผยว่า CMO ยอมรับว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โคโรนารุนแรงที่สุดของการดำเนินธุรกิจ รวมไปถึงของวงการธุรกิจอีเว้นท์ด้วย โดยส่งผลกระทบต่อรายได้บริษัทในไตรมาส 1 -2 คาดว่ารายได้จะลดลงประมาณ 80% เนื่องจากอีเว้นท์หลายงานในช่วงนี้ต้องยกเลิก ซึ่งปกติเป็นช่วงที่ธุรกิจอีเว้นท์คึกคัก มีทั้งการจัดงานมอเตอร์โชว์ งานแสดงสินค้าต่างๆ เปิดตัวสินค้า รวมทั้งในเดือนเมษายน ที่ส่วนใหญ่จะมีจัดงานปาร์ตี้คอนเสิร์ต EDM ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งปีนี้ก็ต้องยกเลิกไป สำหรับผลกระทบในครั้งนี้ ซึ่งบริษัทได้แก้วิกฤติครั้งใหญ่ในเรื่องของการบริหารงานบริหารคนเช่นกัน โดยปรับลดวันทำงานของพนักงานจาก 5 วัน เหลือ 4 วันต่อสัปดาห์ และขอปรับลดเงินเดือนพนักงานตามสัดส่วน ซึ่งได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจกับพนักงาน โดยทุกคนเข้าใจและยินยอมที่จะสู้ไปด้วยกัน แต่อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ดีขึ้น กลับมาจัดงานอีเว้นท์ได้ตามปกติ บริษัท ยังมีงานที่มีความต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 3-4 รวมมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ ก็ต้องขึ้นกับภาพรวมของเศรษฐกิจด้วย ซึ่งคงต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู ทำให้บริษัทจะปรับเป้ารายได้ปีนี้ลดลง 50% หรือลดลงประมาณ 700 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามบริษัท มีการปรับแผนบริหารความเสี่ยงมาโดยตลอด บริษัทฯ รับทำงานที่ไม่ใช่แค่งานอีเว้นท์ โดย บริษัท มีหน่วยธุรกิจ CM Museum ที่รับดูแลงานด้านบริหารจัดการ รวมถึงก่อสร้างและพัฒนา Content ให้กับพิพิธภัณฑ์และศูนย์การเรียนรู้หลายแห่งทั่วประเทศ ซึ่งในส่วนนี้ ปัจจุบันยังดำเนินงานต่อได้อยู่ นอกจากนี้ ยังปรับแผนธุรกิจ พัฒนาอีเว้นท์ขึ้นในรูปแบบการจัดงานแบบอีเว้นท์ออนไลน์ ซึ่งกลุ่มบริษัทมี หน่วยธุรกิจ CM Digital ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องให้บริการ Digital Solutions และ Data Management นำเทคโนโลยีดิจิทัล มาช่วยสร้างมิติใหม่ในการจัดงานอีเว้นท์ทุกประเภทอยู่แล้ว ซึ่งจะช่วยทำให้การจัดงานผ่านเทคโนโลยีออนไลน์และไลฟ์สตรีมมิงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับผลกระทบของธุรกิจอีเวนท์จากการระบาดของไวรัสโควิด 19 ถือเป็นวิกฤติร้ายแรงที่สุดในรอบ 30 ปี ตั้งแต่เกิดวงการอีเว้นท์ขึ้นมา โดยผลกระทบเริ่มมาชัดเจนมากที่สุดในเดือนมีนาคม ซึ่งงานทั้งหมดถูกเลื่อนและยกเลิกเกือบ 100% ซึ่งปกติในช่วงไตรมาสแรกของปี จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจอีเว้นท์ จากการประเมินสถานการณ์ในตอนนี้ ภาพรวมธุรกิจอีเว้นท์ในช่วงไตรมาส 1 - ไตรมาส 2 ได้รับผลกระทบหนักมูลค่าความเสียหายตลาดอีเว้นท์อยู่ที่ประมาณ 50-60% จากภาพรวมตลาดอีเว้นท์ปัจจุบันที่มีมูลค่าประมาณ 13,000 - 14,000 ล้านบาท และคาดว่าทำให้บริษัทออแกไนซ์เซอร์ต้องปิดตัวลงไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งยังไม่นับรวมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับธุรกิจการจัดงานคอนเสิร์ต ซึ่งในแต่ละปีมีการจัดงานทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รวมกันมากกว่า 100 งาน ซึ่งปัจจุบันต้องหยุดจัดงานเลยทั้งหมด

นอกจากจะส่งผลกระทบต่อบริษัทออแกไนซ์เซอร์แล้ว ธุรกิจอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับการจัดงานอีเว้นท์อีกหลายธุรกิจก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ได้แก่ 1.ธุรกิจด้านซัพพลายอุปกรณ์ระบบภาพแสงเสียง 2.ธุรกิจการทำโครงสร้างเวที,ทำฉาก 3.ธุรกิจให้เช่าสถานที่จัดงาน อาทิ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมนานาชาติ, โรงแรม,ห้างสรรพสินค้า 4.ธุรกิจก่อสร้างบูธ, พาวิลเลียน 5.ธุรกิจรับจัดเลี้ยง(Catering) รวมไปถึงกลุ่มอาชีพอิสระที่เกี่ยวข้องในงานอีเว้นท์ อาทิ พิธีกร, พริตตี้ ,สตาฟรันงาน, ช่างภาพ เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับความเสียหายหนักมาก โดยเฉพาะในบางบริษัทที่มีขนาดไม่ใหญ่ สภาพคล่องในกิจการไม่มากพอ อาจจะต้องถึงกับปิดตัวภายใน 2 เดือน ทั้งนี้ เมื่อธุรกิจดำเนินต่อไม่ได้ ก็ส่งผลกระทบต่อรายได้กิจการ และสุดท้ายส่งผลต่อพนักงานคนทำงานในอุตสาหกรรมอีเว้นท์ทั้งระบบจำนวนหลายหมื่นคน ที่บางคนต้องตกงาน หรือถูกลดเงินเดือน หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น เชื่อว่าจะมีคนตกงานอีกเป็นจำนวนมากถึง 50-60%


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment