{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
วันพาสต้าโลกเฉลิมฉลองขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2541 ผู้ผลิตพาสต้าจากทั่วโลกต่างเห็นพ้องกันว่าพาสต้าเป็นอาหารประจำชาติที่ได้รับความนิยมอย่างมาก อร่อยและช่วยทำให้สุขภาพดีอีกด้วย นับแต่นั้นมาจึงได้จัดให้มีวันพาสต้าโลกในวันที่ 25 ตุลาคมของทุกปีเพื่อช่วยส่งเสริมการขายพาสต้า ซึ่งในปีนี้ครบรอบ 20 ปี
วันพาสต้าโลกจัดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศเนปาล จากนั้นย้ายไปจัดในประเทศต่าง ได้แก่ อิตาลี, สหรัฐอเมริกา, สเปน, เม็กซิโก, ตุรกี, บราซิล, อาร์เจนตินา และรัสเซีย
ส่วนในปีนี้จัดขึ้นที่ประเทศดูไบ โดยองค์กรพาสต้าระหว่างประเทศ (International Pasta Organization - IPO) และสมาคมผู้ประกอบการของหวาน/พาสทรี อิตาลี (AIDEPI) และได้รับการสนับสนุนจาก Italian Trade Agency
วัตถุประสงค์ของการจัดงานวันพาสต้าโลกก็เพื่อช่วยส่งเสริมการขายอาหารที่ดีต่อสุขภาพ มีคุณค่าทางโภชนาการอาหารที่สามารถเข้าถึงได้และยั่งยืน นอกจากนี้อาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียนยังถือเป็นสุดยอดของอาหารที่ดีต่อสุขภาพที่สุดในโลก และยังเป็นที่ยอมรับว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษย์ชาติโดยยูเนสโกอีกด้วย
ต้นกำเนิดพาสต้า
ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าต้นกำเนิดของพาสต้านั้นมาจากประเทศจีน อิตาลี หรืออาหรับ แม้จะมีต้นกำเนิดไม่ชัดเจน แต่ชาวซิซิเลียนเป็นคนกลุ่มแรกที่นำเส้นพาสต้าไปต้มในน้ำ ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากชาวอาหรับ และมีหลักฐานที่ชี้ว่า ชาวซิซิเลียนมีการทานอาหารลักษณะเป็นเส้นยาวคล้ายกับเส้นสปาเก็ตตี้ในปัจจุบัน
นอกจากนั้น ในศตวรรษที่ 13 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่พ่อค้าชื่อ มาร์โกโปโล (Marco Polo) จะเดินทางกลับมาจากจีน ก็ได้มีตำราอาหารอิตาเลี่ยนซึ่งมีการทำพาสต้าในหลากหลายรูปทรง เช่น ราวีโอรี (Ravioli) เวอร์มิเซลี (Vermicelli) เป็นต้น ดังนั้น จึงไม่สามารถบอกได้ว่าพาสต้าได้รับอิทธิพลมาจากจีนอย่างแน่นอน
พาสต้าในยุคแรกๆ นั้นจะเป็นแบบสดทำง่าย ส่วนในยุคหลังๆ จะเริ่มมีพาสต้าแบบแห้งในรูปทรงต่างๆ ซึ่งแบ่งออกได้มากกว่า 350 ชนิด แต่ที่รู้จักกันดีนั้นมีอยู่ไม่กี่ชนิด เช่น สปาเกตตี้ (Spaghetti), มักกะโรนี (Macaroni), เฟตูชินี (Fettucine), ลาซานญ่า (Lasagne), แองเจิลแฮร์ (Angel Hair), ราวิโอลี (Ravioli), ลิงกวินี่ (Linguine) หรือ ฟูซิลี (Fusilli) เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีเส้นแบบมีไข่ และไม่มีไข่อีกด้วย
ส่วนวิธีการปรุง ต้องเลือกใช้วัตถุดิบและซอสที่แตกต่างกันไป เนื่องจากเส้นพาสต้าแต่ละชนิดนั้นมีรูปร่างที่ต่างกัน จึงไม่เหมาะที่จะนำมาปรุงเหมือนกัน
ขอขอบคุณข้อมูล
http://2018.worldpastaday.org/
https://www.pholfoodmafia.com/the-origin-of-pasta-กำเนิดพาสต้า/
http://www.italymagazine.com/dual-language/so-how-many-pasta-shapes-are-there
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS