{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

ส.อ.ท.เผย เดือนพฤศจิกายน 2568 ผลิตรถยนต์ 130,222 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.06 ผลิตรถยนต์นั่งไฟฟ้า 9,624 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1,974.14ผลิตรถกระบะไฟฟ้า 66 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 100 ขาย 51,044 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.65
ขายรถยนต์นั่งไฟฟ้า (BEV) 10,569 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 91.50ขายรถกระบะไฟฟ้า 74 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 100
ส่งออก 78,692 คัน ลดลงร้อยละ 12.22 ส่งออกรถยนต์นั่งไฟฟ้า 2,830 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 100 ส่งออกรถกระบะไฟฟ้า 45 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 100
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์ ในเดือนพฤศจิกายน 2568 ดังต่อไปนี้
การผลิต
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนพฤศจิกายน 2568 มีทั้งสิ้น 130,222 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2568 ร้อยละ 4.03 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 11.06 จากการผลิตเพื่อขายในประเทศที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 57.49 เพราะต้องผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชดเชยในอัตรา 1.5 เท่าของยอดรถไฟฟ้านำเข้ามาจำหน่ายในปี 2565 – 2566 ที่ยังผลิตไม่ครบในปีที่แล้ว ส่งผลให้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 1,974.14 และผลิตรถกระบะเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.34 จากการผลิตเพื่อขายในประเทศที่ผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 44.31จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,341,714 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 1.64
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนพฤศจิกายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 51,044 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2568 ร้อยละ 8.53 และเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 20.65 จากรถยนต์นั่งไฟฟ้าที่ขายได้เพิ่มขึ้นเพราะราคาจับต้องได้มากขึ้นและจากรถกระบะดัดแปลง PPV ที่บางบริษัทเพิ่งขายในปีนี้ รถกระบะไฟฟ้าและรถกระบะไฟฟ้าเพิ่มระยะทางที่เริ่มขายในปีนี้รวมทั้งหลักฐานการเงินของผู้ซื้อรถกระบะแข็งแรงขึ้น ช่วยให้ยอดขายรถกระบะไม่ลดลงเป็นเดือนแรก ขอขอบคุณธนาคารแห่งประเทศไทยที่ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงซึ่งจะส่งผลลดภาระให้ผู้เช่าซื้อและผู้มีหนี้ลง ชำระคืนเงินต้นได้มากขึ้น มีเงินเหลือไปจับจ่ายซื้อสินค้าจำเป็นอื่น ๆ ได้มาตรฐาน โรงงานผลิตมากขึ้น จ้างงานเพิ่มขึ้น ประชาชนมีรายได้มากขึ้น เป็นการเริ่มต้นสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้นเสียที
รถยนต์สำเร็จรูป ส่งออกได้ 78,692 คัน ลดลงจากเดือนที่แล้วร้อยละ 5.26 และลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 12.22 จากการเลิกผลิตรถยนต์นั่งเครื่องยนต์สันดาปภายในบางรุ่นเพื่อส่งออก ส่งผลให้ส่งออกรถยนต์นั่งเครื่องยนต์สันดาปภานในลดลงถึงร้อยละ 43.53 และส่งออกรถกระบะลดลงร้อยละ 6.39 แต่ยังคงส่งออกรถกระบะไฟฟ้าและรถยนต์นั่งไฟฟ้าต่อเนื่องมาตั้งแต่กลางปี ตลาดส่งออกเพิ่มขึ้นมีแค่เอเชีย ออสเตรเลียและโอเชียเนีย เท่านั้น และชิ้นส่วนรถยนต์ส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.19
เดือนพฤศจิกายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า ประเภท BEV จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 129,044 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - พฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 44.28
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 10,912 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 29.77
ยานยนต์ประเภทไฟฟ้า ประเภท PHEV จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 1,072 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 39.40
ยานยนต์ประเภทไฟฟ้า ประเภท PHEV จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 1,072 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 39.40
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS